ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ (56) จบ

ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
ผู้เขียน อ.อดุลย์ มานะจิตต์
เขาทราบ ญิบรออีลจึงกล่าวว่า “ฉันจะเป็นบุคคลแรกที่ประกาศสัตย์สาบาน ต่อท่าน จงยื่นมือของท่านออกมาเถิด” เขาจึงถูไปที่มือของท่าน จะมีผู้คน จำนวนสามร้อยกับอีกสิบกว่าคนจะมายังเขา เพื่อมาประกาศให้สัตย์สาบาน กับเขา เขาจะยังคงอยู่ในมักกะฮ์ จนกระทั่งจำนวนผู้ตามเขามีจำนวนเป็น หมื่นๆ คน จากนั้นเขาจะไปยังมะดีนะฮ์”
[มุฮัมมัด บินอัจญ์ลาน รายงานจากสายรายงานของ อบูอับดุลลอฮ์ (ญะฮ์ฟัร อัชชอดิก) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน)
(ญะอ์ฟัร อัซซอดิก) กล่าวว่า “เมื่อ กออิม ขอความสันติสุขจงประสบ แด่ท่าน ยืนขึ้นมา เขาจะเชิญชวนผู้คนไปสู่อิสลามที่สดใหม่ และนำพวก ขาจะเชิญชวนผู้คนไปสู่อิสลาม เขาไปสู่เรื่องหนึ่งซึ่งมันได้สูญหายไปแล้ว และจากสิ่งนี้ที่ผู้คนได้หลงทางออกไป เขาถูกเรียกว่า “มะฮ์ดี” (ผู้หนึ่งที่ชี้ทางนำ) ก็เพราะเหตุเพียงว่าเขา มาชี้นำไปยังเรื่องหนึ่งจากที่ซึ่ง (มนุษย์) ได้หันเหออกไป เขาถูกเรียกว่า “กออิม” (ผู้หนึ่งที่ลุกขึ้นมา) ก็เพราะการลุกขึ้นมาของเขา”
[อับดุลลอฮ์ บินอัล มุกีเราะฮ์ รายงานจากสายรายงานของ อบูอับ ดุลลอฮ์ (ญะอ์ฟัร อัชซอดิก) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน)
(ญะฮ์ฟัร อัซซอติก) กล่าวว่า “เมื่อ อัล กออิม จากครอบครัวของมุ ฮัมมัด ขอความจำเริญของพระเจ้าจงมีแด่ท่านทั้งหลาย ลุกขึ้นมา สมาชิก จากเผ่ากูเรชจำนวนห้าร้อยคน จะมา (ต่อต้านเขา) และเขาจะตัดศีรษะของ คนกลุ่มนี้ จากนั้นจะมีอีกห้าร้อยคนจะมา (ต่อต้านเขา) และเขาก็จะตัดศีรษะ ของคนพวกนี้ อีกห้าร้อยคนจะเข้ามาอีก (เพื่อต่อต้านเขา) จนกระทั่งเขา ได้ทำเช่นนั้นถึงหกครั้ง”
ฉันจึงถามว่า “ดังนั้นจำนวนของผู้คนเหล่านี้จะเป็นเท่านี้ใช่ไหม” ท่าน ตอบว่า “ใช่! มันเป็นจำนวนเท่านี้ และที่ใช้ขัดตาทัพ (มะวาลี)ของพวกเขา”
[อบูบาชีร รายงานว่า]
อบูอับดุลลอฮ์ (ญะอ์ฟัร อัซซอดิก) กล่าวว่า “เมื่อ กออิม ขอความสันติสุขจงประสบแต่ท่าน ลุกขึ้น เขาจะทำลายมัสยิดที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น เพื่อว่าให้เหลือไว้เฉพาะฐานรากของมัน เขาจะเลื่อนแท่นยืน (มะกอมอิบรอฮีม) ไปยังสถานที่ๆ มันเคยตั้งอยู่ เขาจะตัดมือของก๊กบนูชัยบะฮ์ และแขวน มันไว้ที่อัล กะอับะฮ์ เขาจะเขียนไว้ที่มือเหล่านี้ว่า ผู้คนเหล่านี้คือขโมยแห่ง ຄະນະ
โคบูอัล ญารูด รายงานโดยผ่านทางสายรายงานของ อบูญะฮ์ฟัร (อัล บากิร) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน ไว้อย่างยืดยาว (ฮะดิษ)
(อัล บากิร) กล่าวว่า “เมื่อ กออิม ขอความสันติสุขจงประสบแต่ท่าน ยืนขึ้น เขาจะไปยังกูฟา และจะมีผู้คนจำนวนหนึ่งหมื่นคนที่มีชื่อว่า “บรา ทิยกผู้ซึ่งจะติดอาวุธ จะออกมา (ต่อต้านเขา) พวกเขาจะกล่าวว่า “จงกลับ ไปยังที่ที่เจ้ามากันเถิด” เราไม่ต้องการบุตรหลานของฟาฏิมะฮ์ เขา จึงเข้าสู้รบกับผู้คนเหล่านี้ จนกระทั่งเขามาถึงคนสุดท้ายของพวกเขา จากนั้น เขาจะเข้าสู่เมืองกูฟา ณ ที่นั้น เขาจะสังหารพวกหน้าไหว้หลังหลอกที่ชอบ สงสัยทุกคน และเขาจะทำลายปราสาทราชวังของพวกเขา เขาจะสังหาร บรรดาผู้ที่สู้รบเพื่อพวกเขา จนกระทั่งพระเจ้าผู้ทรงมหิธานุภาพ ผู้ทรงสูง ส่ง ทรงพอพระทัย
(อบูคอติยะฮ์ รายงานจากสายรายงานของ อบูอับดุลลอฮ์ (ญะฮ์ฟัร อัซซอดิก) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน)
(ญะฮ์ฟัร อัชชอติก) กล่าวว่า “เมื่อ อัล กออิม ขอความสันติสุขจง ประสบแด่ท่าน ลุกขึ้นมา เขาจะมาพร้อมกับพระบัญชาใหม่ (จากพระเจ้า) ประการหนึ่ง เฉกเช่นเดียวกันกับศาสนทูตของพระเจ้า ขอพระเจ้าทรง ประทานความจำเริญให้กับท่านและครอบครัวของท่าน ได้เทศนาเชิญชวน (ผู้คน) ไปสู่พระบัญชาใหม่ประการหนึ่ง (จากพระเจ้า) ในตอนเริ่มต้นของ อิสลาม”
[อะลี บินอุคบา รายงานโดยผ่านทางสายรายงานของบิดาของเขาผู้ซึ่งกล่าวว่า
(เขา (หมายถึง อิมามที่หนึ่ง) กล่าวว่า) “เมื่อ อัล กออิม ขอความ สันติสุขจงประสบแด่ท่าน ลุกขึ้น เขาจะปกครองด้วยความยุติธรรม ในยุค สมัยของเขา ความอยุติธรรมจะถูกกำจัดให้หมดไปและถนนหนทางจะ ปลอดภัย โลกพิภพจะผลิตผลผลิตของมัน จะไม่มีศาสนาอื่นใดๆ หลงเหลืออยู่เลยโดยที่แต่ละศาสนานั้นๆ จะไม่ได้รับการชี้นำไปสู่อิสลาม และต่างก็ ประกาศตนเข้ารับอิสลาม เจ้าไม่เคยได้ยินพระเจ้าผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ ตรัสไว้หรือว่า
บรรดาผู้ที่อยู่ในชั้นฟ้าและแผ่นดิน ต่างสยบนบนอบ (อัสลามา) ยังพระองค์ ทั้งที่เต็มใจและอย่างลังเลใจ ยังพระองค์คือที่พวกเจ้า
จะกลับคืนสู่ (อัล กุรอาน 3:83)
เขาจะตัดสินระหว่างผู้คนด้วยความยุติธรรมของเดวิดและกฎหมาย ของมุฮัมมัด ขอพระเจ้าทรงประทานความจำเริญให้กับท่านและครอบครัว ของท่าน ในวาระนั้นโลกจะเปิดเผยทรัพย์สินสมบัติของมันและแสดงถึง ความจำเริญของมัน เมื่อถึงเวลานั้นมนุษย์จะหาสถานที่ใดเพื่อการจ่ายภาษี ศาสนาไม่ได้ หรือจะเป็นผู้ที่มีใจบุญใจกุศลก็ไม่ได้ เพราะทรัพย์สินจะห้อม ล้อมมวลบรรดาผู้ศรัทธา”
จากนั้นเขาได้กล่าวเสริมว่า “รัฐของเราเป็นรัฐสุดท้ายแห่งรัฐต่างๆ จะไม่มีบ้านหลังใดซึ่งมีรัฐหนึ่งจะคงอยู่ได้ นอกเสียจากว่าพวกเขาเคย ปกครองมาก่อนเรา เพื่อว่าพวกเขาจะพูดไม่ได้เมื่อพวกเขาเห็นภารกิจต่างๆ ของเรา ถ้าหากเราปกครอง เราก็จะปฏิบัติในแนวทางเดียวกันกับเหล่านี้ ดังพระบัญชาของพระเจ้าผู้ทรงสูงส่งต่อไป”
ผลลัพธ์สุดท้ายเป็นของบรรดาผู้ทรงคุณธรรม (อัล กุรอาน 7:128)”
(อบูบาชิร รายงานจากสายรายงานของ อบูญะอ์ฟัร (อัล บากิร) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน ไว้อย่างยืดยาว) (อัล บากิร) กล่าวว่า “เมื่อ อัล กออิม ขอความสันติสุขจงประสบแต่ ท่าน ลุกขึ้นมา เขาจะไปยังกูฟา ณ ที่นั้น เขาจะทำลายมัสยิดสี่หลัง จะไม่ มีมัสยิดแม้เพียงหลังเดียวหลงเหลืออยู่บนหน้าแผ่นดินซึ่งมีเฉลียง นอกจาก เขาจะทำลายมันและทำให้มันราบเรียบ เขาจะขยายถนนหลักให้กว้างขวาง และ (ตึก) ทุกๆ หลังที่ยื่นล้ำถนนออกมาจะถูกทำลาย เขาจะทำลายห้อง สุขาและท่อน้ำทิ้ง (ซึ่งล้ำออกมา) บนถนนต่างๆ จะไม่มีสิ่งประดิษฐ์ใดๆ ในทางศาสนาหลงเหลืออยู่ ซึ่งเขาจะไม่กำจัดออกไป และจะไม่มีการปฏิบัติ ในทางศาสนา (ซุนนะฮ์) ข้อใดที่เขาจะไม่สถาปนาขึ้นมา เขาจะพิชิตคอน แสตนติโนเปิล จีน และภูเขาแห่งอัล เดว์ลัม เขาจะยังคง (กระทำ) เช่นว่า นั้นเป็นเวลาเจ็ดปี แต่ละปีจะยาวเท่ากับสิบปีของพวกเจ้า จากนั้นพระเจ้า จะทรงกระทำตามที่พระองค์ปรารถนา”
ฉันจึงถามขึ้นว่า “ขอให้ฉันพลีอุทิศเพื่อท่าน พระเจ้าจะทรงยึดปีต่างๆ ให้ยาวออกไปได้อย่างไร” ท่านกล่าวตอบว่า “พระเจ้าผู้ทรงสูงส่ง จะมีบัญชา ให้จักรวาลชะลอความเร็วลง และทำให้การเคลื่อนที่ของมันลดน้อยลง และวันต่างๆ และปีต่างๆ จะยาวนานขึ้นเนื่องจากเพราะเหตุนั้น”
ฉันจึงกล่าวว่า “เป็นที่กล่าวกันว่า หากจักรวาลเปลี่ยนแปลงไปมัน จะถูกทำลาย” ท่านกล่าวตอบว่า “คำพูดเหล่านี้เป็นของพวกอเทวนิยม (ซะนาติเกาะฮ์) ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่มุสลิมจะไปมีความคิดเช่นนั้น พระ เจ้าผู้ทรงสูงส่ง ทรงแยกดวงจันทร์ออกจากกันเป็นสองส่วนให้กับศาสนทูต ของพระองค์ ขอความจำเริญจงมีแด่ท่านและครอบครัวของท่าน และ พระองค์ทรงส่งดวงอาทิตย์กลับไปยังตำแหน่งเดิมของมันให้กับยูชูอะ (บินนูน) พระองค์ทรงบอกให้เราทราบถึงระยะเวลาของวันแห่งการฟื้นคืน ชีพ มันเป็นเสมือนระยะเวลาหนึ่งพันปีในการคำนวณนับของพวกท่าน”
(ญาบิร (อัล ชูฟี) รายงานจากสายรายงานของ อบูญะอ์ฟัร (อัล บากิร) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน(อัล บากิร) กล่าวว่า “เมื่อ อัล กออิม จากครอบครัวของมุฮัมมัด ขอพระเจ้าทรงประทานความจำเริญให้กับท่านและครอบครัวของท่าน ลุก ขึ้นมา เขาจะตั้งค่ายพักขึ้นและเขาจะสอนอัล กุรอานแก่ผู้คน ดั่งที่มันถูก วิวรณ์มาจากพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงมหิธานุภาพและทรงสูงส่ง ความยุ่ง ยากอย่างที่สุดจะเป็นของบรรดาผู้ที่เรียนมันดังที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ เพราะ มันมีความหมายที่แตกต่างไปจากความหมาย (เดิม) ของมัน”
(อัล มุฟัฎฎอล บินอุมัร รายงานจากสายรายงานของ อบูอับดุลลอฮ์ (ญะอ์ฟัร อัซซอดิก) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน)
(ญะอ์ฟัร อัซซอดิก) กล่าวว่า “จะมีคนจำนวนยี่สิบเจ็ดคนมาพร้อม กับ อัล กออิม ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน จากชานเมืองกูฟา ใน จำนวนนี้ สิบห้าคนจะมาจากผู้คนของโมเสส ผู้ซึ่งได้หลั่งเลือดของพวกเขา เพื่อสัจธรรม และมั่นคงอยู่กับสัจธรรมนั้น เจ็ดคนจะมาจากชาวถ้ำ ยูชอะ, ซัลมาน, อบูดุญานะ, อัล อันซอรี, อัล มิคตาด และมาลิกอัชตาร พวกเขา จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือ (อันศอร) และเป็นผู้พิพากษาต่อหน้าของเขา (อัล กออิม)”
[อับดุลลอฮ์ บินอัจญ์ลาน รายงานจากสายรายงานของ อบูอับดุล ลอฮ์ (ญะอ์ฟัร อัซซอดิก) ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน)
(ญะอ์ฟัร อัซซอติก) กล่าวว่า “เมื่อ อัล กออิม แห่งครอบครัวของ มุฮัมมัด ขอพระเจ้าทรงประทานความจำเริญให้กับท่านและครอบครัวของ ท่าน มาปรากฏกาย เขาจะตัดสินพิพากษาในหมู่ผู้คนด้วยกับการตัดสิน พิพากษาของเดวิด ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน เขาไม่จำเป็นจะต้อง อาศัยหลักฐานในการตัดสินพิพากษา เขาจะตัดสินโดยอาศัยความรู้ของเขา และเขาจะบอกกล่าวผู้คนแต่ละฝ่ายถึงสิ่งที่เป็นความลับที่อยู่ภายในสุดของ พวกเขา เขาจะรู้จักมิตรสหายของเขาจากศัตรูของเขา ด้วยกรรมวิธีหนึ่ง ของการรับรู้ได้ในทันที (ตะวัชชุม) พระเจ้า ขอพระองค์จงได้รับการสรรเสริญและความสูงส่ง ตรัสว่า
แท้จริงในนั้นมีสัญญาณต่างๆ อันมากหลาย สำหรับบรรดาผู้มี ความสามารถของการรับรู้ถึงพวกเขา และพวกเขาเป็นมรรคาที่แน่ นอนประการหนึ่ง”
(อัล กุรอาน 15:75-76)
มีรายงานระยะเวลาของรัฐของ อัล กออิม จะดำรงอยู่จำนวนสิบเก้าปี ซึ่งวันและเดือนจะถูกทำให้ยึดยาวออกไป ดังที่เราได้บรรยายไว้แล้ว นี่เป็น เรื่องหนึ่งที่ซ่อนเร้นไปจากเรา การนี้จึงเป็นเรื่องที่ถูกทำให้เป็นที่รับรู้กับเรา ที่ว่า สิ่งที่พระเจ้าผู้ทรงสูงส่งทรงกระทำโดยผ่านทางสภาพการณ์ที่ว่า พระ องค์ ขอให้พระนามของพระองค์ได้รับการสรรเสริญ ทรงตระหนักถึงผล ประโยชน์ที่ดีที่สุด เราจึงไม่ระบุลงไปให้แน่นอนในประการใดประการหนึ่ง ของเรื่องทั้งสองนี้ (ที่ว่ารัฐนั้นจะเป็นเวลาเจ็ดปีหรือสิบเก้าปี) ถึงแม้รายงาน ต่างๆ กล่าวถึงระยะเวลาเจ็ดปีจะมีปรากฏอยู่ชัดเจนกว่าและมีมากมายกว่า ก็ตาม จะไม่มีรัฐให้กับผู้ใดภายหลังจากรัฐของ อัล กออิม ขอความสันติ สุขจงประสบแด่ท่าน ยกเว้นที่ว่ามีการเล่าถึงวจนะหนึ่งไว้ ถึงรัฐหนึ่งภายใต้ การปกครองของบรรดาบุตรชายของท่าน หากพระเจ้าทรงประสงค์ในสิ่งนั้น อย่างไรก็ตามไม่มีคำยืนยันที่แน่นอนและข้อพิสูจน์ใดๆ ถึงเรื่องนั้น รายงาน ส่วนใหญ่ (ยืนยัน) ไว้ว่า มะฮ์ดี แห่งประชาคมจะไม่มีวันจากไป ยกเว้น เวลาสี่สิบวันก่อนที่จะมีการฟื้นคืนชีพ ที่ซึ่งจะมีความสะดวกสบาย และคน ตายนั้นจะลุกขึ้นมา และการมาของเวลาของชั่วโมงแห่งการถ่วงบุญ บาปและการลงโทษ พระเจ้าทรงตระหนักดีที่สุดว่าอะไรจะบังเกิดขึ้น ขอพระ เจ้าทรงนำความสำเร็จและความถูกต้องมาให้ พระองค์คือผู้ที่เราแสวงหาการ คุ้มครองจากความผิดพลาด และการแสวงหาการช่วยเหลือของพระองค์สู่ หนทางแห่งการนำทาง ขอพระเจ้าทรงประทานความจำเริญให้กับมุฮัมมัด ผู้เป็นศาสนทูตและครอบครัวผู้บริสุทธิ์สะอาดของท่าน ผู้เป็นนายของเรา
สรุป
อัล เชค อัล สะอึด อัล มูฟีด มุฮัมมัด บินมุฮัมมัด บินนุมาน ขอพระ เจ้าทรงพึงพอพระทัยกับเขาด้วยเถิด และทรงรวมเขาไว้กับผู้ที่อดทน กล่าวว่า
เราได้เสนอในทุกบทของหนังสือนี้ ซึ่งเป็นการกลั่นกรองมาจาก รายงานต่างๆ (อัคบาร) โดยเป็นไปตามสถานการณ์ต่างๆ เท่าที่จะอำนวย เราไม่ได้รายงานในทุกๆสิ่ง ที่ได้ถูกส่งทอดกันมาในเรื่องอันเป็นที่เฉพาะ แต่ละเรื่อง เพราะมีความลังเลใจว่ามันจะทำให้สับสนจากคำกล่าวของเรา เอง และเกิดจากความกลัวที่ว่าจะสร้างความน่าเบื่อหน่ายและเป็นการ รบกวน หากจะกระทำเช่นนั้น
จากสายรายงานต่างๆ ในเรื่อง อัล กออิม อัล มะฮ์ดี ขอความสันติ สุขจงประสบแด่ท่าน เราได้นำเสนอในสิ่งที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน อย่างย่อๆ ในสิ่งที่ได้รายงานไว้ก่อนแล้ว ย่อมไม่เป็นการเหมาะสมที่ผู้ใด จะเหมาเอาว่า สิ่งที่เราละเว้นไว้ไม่กล่าวถึงนั้นเป็นเพราะการละเลย หรือจะ ตำหนิเราด้วยเหตุที่ว่า เราขาดความรู้หรือการมองข้ามไปหรือความไม่สนใจ ใยดี ฉะนั้นในสิ่งที่เราได้นำเสนอไว้นี้อันเป็นข้อสรุปประการหนึ่งของข้อพิสูจน์ของระบบอิมามะฮ์ของบรรดาอิมาม ขอความสันติสุขจงประสบแต่ ท่าน และเป็นการกลั่นกรองจากรายงานในเรื่องเหล่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นความพอเพียงแล้วต่อจุดประสงค์ของเรา ขอพระเจ้าทรงประทานความ สำเร็จให้ด้วย พระองค์ทรงเป็นที่เพียงพอสำหรับเรา และทรงเป็นสื่อสัมพันธ์ ที่ดีที่สุด
หมายเหตุ
* อบู อัลญะรูด เป็นผู้ก่อตั้งนิกายชัยดีที่มีอิทธิพลอันแข็งแกร่งของอิมามียะฮ์ คู่ต่อสู้ของพวกเขาภายในขบวนการชัยดี ก็คือ พวกบาทริยา


