หากสหรัฐบุกเวเนซุเอลา
หากสหรัฐบุกเวเนซุเอลา
#ความเป็นไปได้และบริบท
การที่สหรัฐจะใช้กำลังทางทหารบุกเวเนซุเอลาโดยตรงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงในสภาวะปัจจุบัน เพราะทรัมป์ได้ตอกย้ำในการสื่อสารอินไลน์และการให้สัมภาษณ์ว่าจะมีปฏิบัติการภาคพื้นดินภายหลังการโจมตีเรือหลายลำที่อ้างว่าเป็นเรือของพ่อค้ายาเสพติดและทำการปิดน่านฟ้าเวเนซุเอลาไปเรียบร้อยแล้วโดยไม่คำนึงถึงบทเรียนจากอิรัก อัฟกานิสถาน ซึ่งจะตามมาด้วยผลกระทบที่รุนแรงและสลับซับซ้อนในหลายมิติ
ระยะแรก: การรุกทางทหาร (0-3 เดือน)
**ความได้เปรียบทางทหาร**
สหรัฐมีความเหนือกว่าทางทหารอย่างท่วมท้น กองทัพเวเนซุเอลาอ่อนแอลงมากจากวิกฤตเศรษฐกิจ ขาดอะไหล่ การฝึกอบรม และขวัญกำลังใจ สหรัฐสามารถควบคุมน่านฟ้า ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารสำคัญ และเข้ายึดกรุงการากัสได้ภายในสัปดาห์แรก กองกำลังพิเศษสามารถจับกุมหรือกำจัดผู้นำระดับสูงรวมถึงมาดูโรได้อย่างรวดเร็ว
**แต่ความท้าทายจะเริ่มต้นทันที**
กองทัพเวเนซุเอลามีกำลังพลประมาณ 120,000 นาย บวกกองกำลังอาสาสมัครและกลุ่มติดอาวุธที่จงรักภักดีต่อรัฐบาลอีกหลายหมื่นคน หลายกลุ่มจะหันไปสู้รบแบบกองโจรในเมืองและป่า เวเนซุเอลามีภูมิประเทศที่ซับซ้อน ตั้งแต่เทือกเขาแอนดีสไปจนถึงป่าแอมะซอน ซึ่งเอื้อต่อการสู้รบแบบกองโจร

กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น “Colectivos” มีประสบการณ์การสู้รบในเมืองและอาจสร้างความสูญเสียแก่กองทัพสหรัฐได้ ประชาชนส่วนหนึ่งที่เห็นว่าการบุกเป็นการรุกรานอธิปไตยจะต่อต้านแม้ไม่ชอบมาดูโร ชาตินิยมละตินอเมริกาและความเกลียดชังการแทรกแซงของสหรัฐจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนการต่อสู้
#การตอบโต้ของรัสเซียและจีน
**รัสเซีย: ภัยคุกคามรุนแรง**
รัสเซียจะถือว่านี่เป็นการท้าทายโดยตรงต่อผลประโยชน์และเกียรติยศ รัสเซียอาจ:
– ส่งอาวุธทันสมัยและที่ปรึกษาทางทหารเข้าไปเพิ่มเติม แก่กองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์เพื่อสนับสนุนกองโจรต้านสหรัฐ คล้ายกับที่สหรัฐทำในอัฟกานิสถานยุค 1980s
– เพิ่มความตึงเครียดทางทหารในยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะในยูเครนหรือบอลติก เพื่อกระจายกำลังสหรัฐ
– ให้ข่าวกรองและการสนับสนุนทางไซเบอร์แก่กลุ่มต่อต้านสหรัฐ
– ใช้การโจมตีทางไซเบอร์โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐ
ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด หากรัสเซียเห็นว่าการบุกเวเนซุเอลาเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการโจมตีผลประโยชน์รัสเซียทั่วโลก อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างสหรัฐ-รัสเซีย ซึ่งมีความเสี่ยงของการยกระดับเป็นความขัดแย้งนิวเคลียร์
**จีน: สงครามเศรษฐกิจและการทูต**
จีนจะใช้วิธีการทางเศรษฐกิจและการเมืองมากกว่าทางทหาร:
– โดยตอนนี้ได้เริ่มขายพันธบัตรสหรัฐจำนวนมหาศาล (จีนถือหนี้สหรัฐหลายแสนล้านดอลลาร์) เพื่อทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าและกดดันเศรษฐกิจสหรัฐ
– ตัดการส่งออกสินค้าและแร่ธาตุหายากที่สหรัฐพึ่งพิง
– ระดมประเทศกำลังพัฒนาต่อต้านสหรัฐในเวทีสหประชาชาติ
– เพิ่มการสนับสนุนทางการเงินและเทคโนโลยีให้กลุ่มต่อต้านสหรัฐ
– อาจเพิ่มความตึงเครียดในทะเลจีนใต้หรือต่อไต้หวัน หรือญี่ปุ่นเพื่อบังคับให้สหรัฐต้องแบ่งทรัพยากรทางทหาร
จีนจะใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าสหรัฐเป็น “จักรวรรดินิยม” และผลักดันให้ประเทศต่างๆ เข้าร่วมระเบียบโลกที่นำโดยจีนแทน

#ปฏิกิริยาของภูมิภาคและสากล
**ละตินอเมริกา: แบ่งแยกและโกรธแค้น**
แม้หลายประเทศในละตินอเมริกาไม่ชอบมาดูโร แต่การบุกทางทหารจะกระตุ้นความทรงจำที่เจ็บปวดของการแทรกแซงสหรัฐในศตวรรษที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ เช่น เม็กซิโก บราซิล และชิลี จะประณามการบุกอย่างรุนแรง แม้จะไม่ชอบรัฐบาลเวเนซุเอลา
คิวบา นิการากัว และโบลิเวียที่เป็นพันธมิตรของเวเนซุเอลาอาจให้การสนับสนุนแก่กองโจรต้านสหรัฐ โคลอมเบียซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐจะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เพราะต้องรับผู้อพยพหลายล้านคนและอาจถูกใช้เป็นฐานทัพ แต่ประชาชนโคลอมเบียส่วนใหญ่คัดค้านการแทรกแซงทางทหาร
-เกิดการประท้วงขนานใหญ่ในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐ
**สหภาพยุโรป: ลังเลและแตกแยก**
ยุโรปส่วนใหญ่จะไม่สนับสนุนการบุกทางทหาร แม้จะวิพากษ์วิจารณ์มาดูโร ฝรั่งเศสและเยอรมนีจะเรียกร้องให้แก้ปัญหาทางการทูต สเปนและอิตาลีที่มีชุมชนเวเนซุเอลาขนาดใหญ่จะกดดันให้ใช้วิธีสันติ การบุกอาจทำให้ความสัมพันธ์ข้ามแอตแลนติกตึงเครียด
**ตะวันออกกลางและเอเชีย: โอกาสทางภูมิรัฐศาสตร์**
อิหร่านจะเห็นว่านี่เป็นโอกาสเพิ่มอิทธิพลและอาจส่งที่ปรึกษาทางทหารและอาวุธเข้าเวเนซุเอลา ตุรกี อินเดีย และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ จะใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงมาตรฐานสองมาตรฐานของตะวันตก
-การเคลื่อนไหวของอิหร่านจะทำให้อิสราเอลฉวยโอกาสโจมตีอิหร่าน และจะทำให้สงครามประทุขึ้นในตะวันออกกลาง
**สหประชาชาติ: เป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์**
คณะมนตรีความมั่นคงจะเป็นอัมพาต รัสเซียและจีนจะยับยั้งมติใดๆ ที่สนับสนุนการกระทำของสหรัฐ สมัชชาใหญ่จะผ่านมติประณามการบุก แต่ไม่มีผลบังคับใช้ เลขาธิการสหประชาชาติจะเรียกร้องให้ยุติการรบทันที แต่ไม่มีกลไกบังคับ
ความชอบธรรมของสหประชาชาติในฐานะองค์กรระหว่างประเทศจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก คล้ายกับการบุกอิรักปี 2003 ที่ไม่ได้รับการรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคง
#ผลกระทบต่อสหรัฐเอง
**ภายในประเทศ: แตกแยกอย่างรุนแรง**
สังคมอเมริกันจะแบ่งเป็นสองขั้วรุนแรง กลุ่มหนึ่งสนับสนุนว่าเป็นการปกป้องประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ อีกกลุ่มประณามว่าเป็นสงครามเพื่อน้ำมันและการรุกรานอธิปไตย การเสียชีวิตของทหารอเมริกันจะทำให้การต่อต้านสงครามทวีความรุนแรง ประท้วงขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศ
**เศรษฐกิจ: ต้นทุนสูงมหาศาล**
สงครามจะใช้งบประมาณหลายแสนล้านถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ ราคาน้ำมันจะพุ่งสูงเพราะความไม่แน่นอนและการรบกวนการผลิต เงินเฟ้อในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น หากจีนใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ ผลกระทบจะรุนแรงยิ่งขึ้น
**การทูต: ความชอบธรรมที่สูญเสีย**
ภาพลักษณ์ของสหรัฐในฐานะผู้นำโลกเสรีจะเสียหายอย่างหนัก พันธมิตรจะสั่นคลอน การรักษาความสัมพันธ์กับประเทศอื่นจะยากขึ้น จีนและรัสเซียจะใช้โอกาสนี้ขยายอิทธิพลในพื้นที่ที่สหรัฐเคยครอบงำ
ระยะยาว: หลุมดำคาริเบียน
**การครอบครองและกบฏ**
แม้สหรัฐจะชนะในระยะแรก แต่การสร้างเสถียรภาพและการปกครองเวเนซุเอลาจะเป็นฝันร้าย เวเนซุเอลามีประชากร 28 ล้านคน พื้นที่ใหญ่กว่าอิรัก และโครงสร้างพื้นฐานที่พังทลาย การสร้างรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมจะยากมาก
กองโจรที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย จีน อิหร่าน และคิวบา จะต่อสู้นานหลายปีหรือหลายทศวรรษ การสูญเสียชีวิตของทหารอเมริกันจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนเวเนซุเอลาจะตกเป็นเหยื่อของสงครามกองโจรที่ไม่มีวันสิ้นสุด
**วิกฤตมนุษยธรรม**
ผู้อพยพจะเพิ่มจากหลายล้านเป็นสิบล้านคน ไหลเข้าประเทศเพื่อนบ้านและสหรัฐเอง โครงสร้างพื้นฐานที่เหลืออยู่จะถูกทำลายจากการสู้รบ ผู้คนจะขาดอาหาร น้ำสะอาด ยา และที่อยู่อาศัย ความเป็นอยู่ของประชาชนจะแย่ลงกว่าในยุคมาดูโร
**ระเบียบโลกใหม่: โลกแบ่งขั้ว**
เหตุการณ์นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันโลกไปสู่โลกหลายขั้วและสงครามเย็นครั้งใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ระบบพหุภาคีจะถึงจุดพังทลาย ความร่วมมือระหว่างประเทศในประเด็นสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การค้าโลก จะติดขัด
ประเทศกำลังพัฒนาจะหันไปพึ่งจีนและรัสเซียมากขึ้น โดยเห็นว่าระเบียบโลกที่นำโดยสหรัฐเป็นภัยคุกคาม ความเสี่ยงของความขัดแย้งทางทหารในจุดอื่นๆ ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น

สรุป: เส้นทางแห่งหายนะ
การที่สหรัฐบุกเวเนซุเอลาจะเป็นหนึ่งในความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้จะชนะทางทหารในระยะแรก แต่ต้นทุนทางการเมือง เศรษฐกิจ มนุษยธรรม และความชอบธรรมจะสูงมหาศาล ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้คือสงครามกองโจรที่ยืดเยื้อ วิกฤตมนุษยธรรมครั้งใหญ่ การแตกแยกของระเบียบโลก และความเสี่ยงของการยกระดับเป็นความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจที่อาจนำไปสู่สงครามโลก
ประชาชนเวเนซุเอลาที่การแทรกแซงอ้างว่าจะช่วยเหลือ จะกลายเป็นผู้ประสบภัยสูงสุด และความทุกข์ทรมานจะยาวนานกว่ายุคมาดูโรหลายเท่า นี่คือเหตุผลว่าทำไมแม้สหรัฐจะไม่พอใจรัฐบาลมาดูโร แต่ตัวเลือกการใช้กำลังทางทหารโดยตรงยังคงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ไม่มีใครอยากเห็นเกิดขึ้นจริง นอกจากทรัมป์และDeep State ที่หวังผลประโยชน์จากน้ำมันและธุรกิจการเงินของไซออนิสต์
Credit: ศ.พล.ท ดร.สมชาย วิรุฬหผล








