INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

คาสุโอะ อินาโมริ : จิตวิญญานแห่งการต่อสู้

คาสุโอะ อินาโมริ : จิตวิญญานแห่งการต่อสู้

เมื่อคาสุโอะ อินาโมริ ได้เริ่มต้นการทดลองครั้งแรกกับการบริหารแบบอะมีบาเมื่อต้น ค.ศ 1960 เป้าหมายของเขาคือ การสร้างระบบข้อมูลและการบริหารการปฏิบัติงาน
ที่ตรงไปตรงมาและง่ายต่อบุคคลที่จะเข้าใจ ภายใต้มุมมองของเขา ความเข้าใจธุรกิจการผลิตควรจะง่ายเหมือนกับความเข้าใจธุรกิจผู้ขายอาหารรายเล็ก แทนที่บริษัทจะใช้แผนกจัดซื้อรวมศูนย์กลาง คาสุโอะ อินาโมริต้องการให้อะมีบาทำงานเป็นหน่วยอิสระ และเจรจาต่อรองราคาโอนท่ามกลางพวกเขาและลูกค้าภายนอก เพื่อที่จะทำให้เรื่องง่ายขึ้น อะมิบาควรจะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยเงินสด การหลีกเลี่ยงสินค้าคงเหลือและหนี้ค้างจ่าย
การวางการตัดสินใจภายในมือของแต่ละอะมีบาจะมีข้อได้เปรียบของการทำให้ทางเลือกชัดเจนและเร่งการกระทำ การบริหารแบบอะมีบาจะให้หน่วยธุรกิจของเคียวเซร่าวิเคราะห์การควบคุม และกลไกที่จะทำการปรับตัวต่อราคา คุณภาพ
และตารางเวลาจัดส่งตามต้องการ ถ้าราคาผลิตภัณฑ์ลดลงหรือคำสั่งซื้อช้าลง อะมีบา -ตรงกันข้ามกับแผนกการบัญชีอยู่ห่างเป็นพันไมล์ ได้ถูกคาดหวังให้ตอบสนอง ตัวอย่างเช่น การลดราคาหรือลดผลผลิตของพวกเขาเอง การตัดสินใจเหล่านี้จะไม่ได้รับอิทธิพลจากกฎการบัญชีทางวิชาการ
คาสุโอะ อินาโมริ ได้อธิบายว่า ตามความคิดเห็นของผม จุดสำคัญของการบริหารจะถูกพบได้ภายในหลักการที่ผมได้ประยุกต์ใช้และภายในการบริหารเคียวเซร่าและเคดีดีไอ ภายในงานของผมที่จะสร้างใหม่แจแปน แอร์ไลน์
สายการบินเรือธงก่อนหน้านี้ ผมได้พูดกับผู้บริหารเจเอแอลทุกวันเกี่ยวกับความเข้าใจของผมและการประยุกต์ใช้หลักการเหล่านี้ ไม่ว่าเราจะอยู่ไหน
ทำเลที่ตั้งตามพื้นที่และพรมแดนของประเทศจะไม่เปลี่ยนปลง สาระสำคัญ
ของการบริหารเหล่านี้ หลักการบริหารสิบสองข้อจะใช้คำถาม อะไรคือสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำในฐานะของมนุษย์ เป็นเกณฑ์การตัดสินใจพื้นฐานที่สุด ผมเชื่อว่า
ปรัชญาโดยทั่วไปเหล่านี้จะอยู่เหนือความแตกต่างภายในสัญชาติ เชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา
1 การระบุความมุ่งหมายและภารกิจของธุรกิจของเราให้ชัดเจน การกำหนดเป้าหมายที่สูง สง่างาม เป็นจริง และยุติธรรม
2 การกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง การร่วมเป้าหมายกับบุคคลทุกคนของเรา
3 การรักษาความปราถนาที่ลุ่มหลงภายในหัวใจของเรา ความปราถนาของเราต้องเข้มแข็งและที่จะเจาะเข้าไปภายในจิตใจบุคคลของเรา
4 ความมุ่งมั่นให้หนักกว่าใครก็ตาม ทำงานอย่างมั่นคงและขยัน ทีละอย่าง ไม่ย่อท้อกับงานที่น่าเบื่อ
5 การสร้างรายได้สูงสุดและการลดค่าใช้จ่ายต่ำสุด วัดการไหลเข้าของเรา
และควบคุมการไหลออกของเรา อย่าล่ากำไร แต่ปล่อยให้มันตามมากับความพยายาม
6 กำหนดราคาจะเป็นการบริหาร การกำหนดราคาจะเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารระดับสูง ค้นหาจุดตรงที่ลูกค้ามีความสุขและบริษัททำกำไรสูงสุด
7 ความสำเร็จจะถูกกำหนดโดยกำลังใจ การบริหารธุรกิจต้องการความไม่ย่อท้อ
8 การครอบครองจิตวิญญานการต่อสู้ การบริหารต้องการความคิดชอบต่อสู้มากกว่าศิลปป้องกันตัว
9 การเผชิญความท้าทายด้วยความกล้าหาญ ต้องยุติธรรมและไม่หลอกลวงบุคคลอื่น
10 ความมคิดสร้างสรรค์ภายในงานของเราอยู่เสมอ สร้างนวัตกรรมและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง วันนี้ควรจะดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ควรจะดีกว่าวันนี้
11 ความเมตตาและความจริงใจ ธุรกิจจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นหุ้นส่วน
และต้องนำความสุขมาสู่ทุกฝ่าย
12 ความร่าเริงและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ยึดความฝันที่ยิ่งใหญ่และหวัง
ภายในความบริสุทธ์ของหัวใจของเรา
การตั้งราคาจะกำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการบริหาร เราจะมีระดับไม่สิ้นสุดของการตั้งราคา ตั้งแต่จากกำไรต่ำและยอดขายสูง ไปจนถึงราคาสูงและยอดขายต่ำ มันยุ่งยากอย่างมากที่จะพยากรณ์เราจะขายได้กี่หน่วย ณ ราคาเท่าไร หรือทำกำไรเท่าไร ดังนั้นเราจะต้องประเมินคุณค่าผลิตภัณฑ์ของเราอย่างถูกต้อง และค้นหาจุดจำนวนหน่วยที่ขายคูณกำไรที่สร้างกำไรรวมสูงสุด
ชีวิตจะมหัศจรรย์และเต็มไปด้วยโอกาส เราจะต้องเตือนตัวเราเองอยู่เสมอว่าชีวิตที่มหัศจรรย์รอเราอยู่ เราไม่ควรจะบ่น หรือรู้สึกมืดมน แม้ว่ามันจะเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายมาก
การบริหารธุรกิจจะเป็นเรื่องที่เรียบง่าย มันจะอยู่บนพื้นฐานของการทำรายได้สูงสุดและการลดค่าใช้จ่ายต่ำสุด กำไรจะเป็นเพียงแต่ความแตกต่างระหว่างสองอย่างนี้ เราะต้องมุ่งที่การทำรายได้สูงสุดและการลดค่าใช้จ่ายให้ต่ำสุด เราจะต้องไม่ติดกับดักด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิมหรืือความคิดที่ตายตัว สิ่งที่สำคัญคือ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเรา
การบริหารพื้นที่ผลิตจะชี้ว่ารากฐานของการผลิตคือพื้นที่ผลิต รากฐานของการขายคือร่านค้าที่เราพบกับลูกค้าของเรา เมื่อปัญหาได้เกิดขึ้น เราจะต้องทันทีีกลับไปยังสถานที่ของปัญหา ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีหรือเหตุผลอะไรที่ห่างจากโรงงาน เราจะไม่เคยแก้ปัญหาที่ไหนได้เลย

คาซูโอะ อินาโมริ ที่เคยบวชเป็นพระสงฆ์ ผู้ก่อตั้งเคียวเซรา สามารถฟื้นฟูแจแปน แอร์ไลน์จากการล้มละลายทางการเงินได้อย่างไร เมื่อรัฐบาลเป็นเจ้าของเจเอแอล พวกเขาได้สร้างนิสัยที่ไม่ดีบางอย่าง ภายหลังจากแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ พวกเขาจะขาดสัญชาติญานของการอยู่รอด ภายใต้พายุเราจะมองดูชายคนหนึ่งที่ไม่มีประสบการณ์ทางการบินเลยได้ทำลายแม่พิมพ์ได้อย่างไร เรื่องราวการฟื้นฟูบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดภายในประวัติศาสตร์ของญี่
ปุ่นที่ได้ถูกบอกจากเล่าภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “Inside the Storm”
และได้กลายเป็นตัวอย่างของตำราเรียนเอ็มบีเอไปทัวโลก
ผมคือมือสมัครเล่นภายในอุตสาหกรรมสายการบินเลยทีเดียว” นั่นคือไม่ใช่สายงานที่เราจะคาดหวังได้จากผู้นำที่ถูกแต่งตั้งใหม่ของแจแปน แอร์ไลน์ โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ ณ หัวใจของความล้มเหลวของบริษัทยิ่งใหญ่ที่สุดภายในประวัติศาสตร์สายการบิน ถ้อยคำจะมาจากคาซูโอะ อินาโมริ บุคคลที่ได้ถูกยกย่องกับการชุบชีวิตแจแปน แอร์ไลน์ อย่างน่าทึ่ง การแต่งตั้งคาซูโอะ จะผิดธรรมดาภายในหลายด้าน บีบีีซี ได้กล่าวถึงอายุของเขา 77 ปีเมื่อถูกแต่งตั้ง
และผิดธรรมดาที่เทียมกันคือ การขาดความรู้อย่างสิ้นเชิงของเขาภายอุตสาหกรรมสายการบิน แจแปน แอร์ไลน์ ได้ยื่นขอความคุ้มครองจากการล้มละลายต่อศาล ด้วยหนี้สินมากกว่า 25 พันล้านเหรียญ เขาได้บอกบีบีซีว่า ผมได้ปฏิเสฐข้อเสนอหลายครั้ง เพราะว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกัยสายการบิน
ภายใต้ความเป็นผู้นำของคาซูโอะ เขาจะเหมือนกับชาวญี่ปุนรุ่นเก่าแก่หลายคนของประเทศ ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ที่รู้เรื่องบริษัทดีเพียงพอจากภายนอก เขาได้บอกผู้บริหารอาวุโส ณ เจเอแอล ว่าบริษัทที่ล้มละลายต้องมีบางสิ่งอย่างผิดลาดที่แกน เราจะมองเห็นได้จากการดูที่ตัวเลขเท่านั้น แต่ตัวเลขที่เขาได้รับเก่าไปแล้ว 3 หรือ 4 เดือน เขาได้ถูกบอกว่าเมื่อบริษัทมีสำนักงานทั่วโลก และบิน 1,000 เที่ยวต่อวัน มันต้องใช้เวลาที่จะรวบรวมตัวเลข พวกเขามองคาซูโอะเหมือนกับชายแก่ที่ขาดความรู้จากมหาวิทยาลัยบ้านนอก
เป็นเพียงนักเทคโนโลยีที่ไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นคาซูโอะ ได้บอกแก่พวกเขาว่านี่ไม่ใช่การบริหาร แม้แต่นักบินยังต้องการเครื่องว้ดที่จะบิน พวกเขาคือชนชั้นนำแบบราชการเลยทีเดียว
ถ้ามหาเศรษฐีชายชราคนนี้ถูกต้องภายในการฟื้นฟูเจเอแอล บทเรียนอย่างหนึ่งของหลายบทเรียนที่สำคัญที่สุดของคณะบริหารธุรกิจอาจจะผิด ถ้อยคำเกี่ยวกับการมุ่งผู้ถือหุ้น ลืมไปได้เลย คาซูโอะ พูด เราต้องใช้เวลากับการทำให้บุคคลของเรามีความสุข เขาได้ใช้ปรัชญานี้สร้างยักษ์ใหญ่อีเล็คโทรนิคเคียวเซอร่า นานกว่าห้าทษวรรษที่แล้ว
เมื่อมองข้ามจากสำนักงานใหญ่ของเคียวเซอร่าไปยังภูเขาและวัดของเมืองหลวงโบราณเกียวโต คาซูโอะ ได้รู้สึกสงสัยต่อวิถีทางของนายทุนทางตะวันตก มุมมองของเขาจะเป็นเครื่องเตือนความจำว่าป้อมปราการหลายแห่งของธุรกิจญี่ปุ่น ไม่ได้รับแผนของชินโซะ อเบะ นายกรัฐมนตรี ทำให้บริษัทต้องทุ่มเทแก่ผู้ถือหุ้นมากขึ้น คาซูโอะ ได้กล่าวภายในการสัมภาษณ์ว่า ถ้าเราต้องการไข่ ต้องดูแลไก่ ถ้าเราข่มเหงหรือฆ่าไก่ ไก่จะไม่ไปทำงาน
คาซูโอะ อินาโมริ ได้บอกความลับว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของบุคคล ภายหลังจากการกลายเป็นซีอีโอโดยไม่มีรายได้
และได้สรุปหลักการทางพุทธศาสนาว่าบุคคลควรจะมีชีวิตอยู่อย่างไร เช่น การอยู่อย่างเรียบง่ายและทำสิ่งที่ถูกต้อง การทำให้พวกเขาภูมิใจต่อสายการบิน และพร้อมที่จะทำงานหนักขึ้นเพื่อความสำเร็จ
หลักคำสอนได้รับแรงดึง เพราะว่าเส้นแบ่งระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนบุคคลภายในญี่ปุ่นจะไม่ชัดเจนเหมือนอเมริกา ยุทธวิธีของคาซูโอะจะมุ่งจิต
วิญญาน
ผู้นำบริษัทจะต้องพยายามทำให้บุุุคคลทุกคนของพวกเขามีความสุขทั้งทางวัตถุและจิตใจ
นั่นคือความมุ่งหมายของพวกเขา มันไม่ควรจะเป็นการทำงานเพื่อผู้ถือหุ้น
แม้ว่านักลงทุนอาจจะไม่ประทับใจ แต่อาจจะมองไม่เห็นความขัดแย้ง
ถ้าเราสร้างความสุขแก่บุคคล พวกเขาจะทำงานดีขึ้น กำไรจะเพิ่มสูงขึ้น
บริษัทไม่ควรจะรู้สึกผิดต่อการทำกำไร ถ้าบริษัทดำเนินตามวิถีทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
คาซูโอะได้กล่าวว่าความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุดคือการเปลียนแปลงวัฒนธรรมแบบราชการที่ไมยืดหยุ่นของแจเอแอล จนกระทั่งการแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจของเจเอแอลเมื่อ ค.ศ 1987 แจแปน แอร์ไลน์ จะเป็นเจ้าของโดยรัฐบาลนานกว่าสามทศวรรษ ผมรู้สึกอึดอัดใจมาก เพราะว่าบริษัทไม่ได้รู้สึกเหมือนกับเป็นบริษัทเอกชนเลย ข้าราชการก่อนหน้านี้หลายคนที่คุ้นเคยกับระบบราชการ ได้ถูกนำเข้ามาภายในบริษัทและได้รับเงินเดือนที่สูงมาก
ดังนั้นผมไม่ได้พูดว่าเป็นความผิดของเจเอแอลทุกอย่าง ผมประหลาดใจว่าเจเอแอลไม่ได้มีผู้นำที่แท้จริงที่สามารถรวมบุคคลทุกคนเข้าด้วยกันให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างวิกฤต และเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมบริษัทที่ฝังรากลึกได้อย่างไร
ภายในการสัมภาษน์บนชั้นที่ 24 ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทมองข้ามไปยังอ่าวโตเกียว และสนามบินฮาเนดะไกลออกไป คาซูโอ อินาโมริ ชายชราอายุ 80 ปี ผมสีเทา ได้กล่าวว่า เขาได้ส่งข่าวสารอย่างตรงไปตรงมาเมื่อเขามาถึงบริษัทอย่างไร ทำไมเขาเชื่อว่าการบริหารแบบการรวมกันให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจะดีต่อทุกบริษัท และทำไมการบริหารแบบตะว้นตกจะคล้ายกับการบริหารแบบเผด็จการมาก
คาซูโอะ อินาโมริ ได้ย้ำถึงความสำคัญของจิตใจของบุคคลภายในบริษัทและวัฒนธรรมบริษัท ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตใจของบุคคล ผมจะคิดถึง
ข้อเท็จจริงว่าผมเป็นซีอีโอที่ไม่มีเงินเดือน จะกระทบต่อบุคคลของเจเอ
แอลด้วยวิถีทางที่มองเห็นและมองไม่เห็น การเน้นเหตุผลข้อแรกของความสำเร็จของเขา เราจะมีเหตุผลสามข้อที่จูงใจบุคคลให้ทำงานหนักขึ้น เหตุผลเหล่านี้คือ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศถ้าเจเอแอลล้มเหลว ความต้องการที่จะ
คุ้มครองงานของบุคคลที่ยังคงอยู่ และการจัดหาการเดินทางทางอากาศ
ที่แน่นอนแก่ประชาชน
ภายใต้ความเป็นผู้นำของคาซูโอะ บุคคลทุกคนได้เริ่มต้นมีการรับรู้ทางภารกิจว่า “นี่คือบริษัทของเรา” เราต้องสร้างบริษัทขึ้นมาใหม่ด้วยพวกเราเอง ในขณะเดียวกันความรู้สึกของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวเดียวได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อบุคคลทุกคนมองว่าพวกเขาอยู่บนเรือลำเดียวกันแล้ว คาซูโอะ อินาโมริ ได้กล่าวว่า บริษัททุกบริษัทจะสามารถเอาชนะความยุ่งยากที่รุนแรง และเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างสำคัญได้อย่างสำคัญ ต่อเมื่อบุคคลทุกคน ได้ถูกรวมเข้าด้วยกันภายใต้ผู้นำของพวกเขา และได้ใช้ความพยายามอย่างจริงใจด้วยจิต
วิญญานที่ไม่ยอมแพ้
แจแปน แอร์ไลน์ สายการบินแห่งชาติของญี่ปุ่น และสายการบินใหญ่ที่สุดของเอเซีย ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อ ค.ศ 1951 สัญลักษณ์โดดเด่นบนปลายหางเครื่องบินคือนกกระเรียนสีแดงกางปีกทำตัวเป็นวงกลม ความหมายคือธงชาติญี่ปุ่นที่ไปยังทุกจุดหมายปลายทาง
การฟื้นฟูแจแปน แอร์ไลน์ให้อยู่รอดได้และทำกำไรจนทุกวันนี้ เราควรจะยกย่องนายคาซูโอะ อินาโมริ ผู้ก่อตั้งบริษัทเคียวเซร่า ยักษ์ใหญ่ไฮเทคของญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นได้เชิญเขาเข้ามาเป็นซีอีโอ เพื่อที่จะดำเนินการฟื้นฟูแจแปน แอร์ไลน์ ตอนที่เขามีอายุ 78 ปี และคาซูโอะ อินาโมริ ไม่เคยมีประสบการณ์ทางธุรกิจสายการบินเลย เขาได้ปฏิเสธหลายครั้ง แม้แต่ครอบครัวและเพื่อนของเขาได้แนะนำให้ปฏิเสธ เขาได้เคยกล่าวว่า ผมไม่เคยรู้เลยว่าแจแปน แอร์ไลน์ จะมีหนี้สินมหาศาล จนกลายเป็นลัมละลาย แต่ในที่สุดเขาได้ตอบรับและไม่ขอรับเงินเดือน คาซูโอะ อินาโมริได้อ้างเหตุผลว่า ถ้าเราไม่สามารถชุบชีวิตแจแปน แอร์ได้ มันจะกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ต่อระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ตกต่ำอยู่แล้ว เขาได้พูดว่า เมื่อก่อนผมจะไม่บินกับแจแปน แอร์เลย เนื่องจากเขามองว่าการบริการไม่ดี ผมไม่ชอบเพราะว่าแจแปน แอร์ไลน์ หยิ่งยะโส และไม่สนใจลูกค้า
ภายใต้ความเป็นผู้นำของคาซูโอะ อินาโมริ เขาได้ลดกำลังงานลงหนึ่งในสาม ลดสวัสดิการของบุคคลลง และได้ปิดเส้นทางบินที่ไม่มีกำไร
ความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุดของคาซูโอะ อินาโมริคือ การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมแบบราชการและเข้มงวดของแจแปน แอร์ไลน์ที่ฝังรากลึกมายาวนานได้อย่างไร ผมรู้สึกอึดอัดมาก ปรัชญาที่เรียบง่ายของผมคือ การทำให้บุคคลทุกคนมีความสุข นี่คือกฏทองของผมตั้งแต่ผมได้ก่อตั้งบริษัทเคียวเซร่าขึ้นมาเมื่อผมอายุ 27 ปี ขณะนี้เคียวเซร่ามีรายได้ประมาณ 1.2 ล้านล้านเยน กำไรมากกว่า 100 พันล้านเยน บริษัทไม่เคยขาดทุนภายใน 53 ปีเลย เราไม่ใช่ทำให้ผู้ถือหุ้นมีความสุข เราเพียงแต่สร้างบริษัที่บุคคลทุกคนภูมิใจทำงานด้วย
ผมต้องการมีบริษัทที่ร่วมปรัชญาเดียวกับผม ตั้งแต่ผู้บริหารสูงสุดลงมาจนถึงพนักงานล่างสุด แล้วเราจะบริหารบริษัทตามปร้ซญานี้ เมื่อผมมาถึงแจแปน แอร์ไลน์ ครั้งแรก ผมได้บอกผู้บริหารว่าเราจะต้องแถลงปรัชญาการบริหารแก่บุคคลทุกคน สิ่งเดียวที่ผมต้องการพูดคือ การสร้างความสุขแก่บุคคลทุกคนทั้งทางร่างกายและจิตใจ
คาซูโอะ อินาโมริ ได้ใช้สไตล์การบริหารแบบสัมผัส เขามักจะนำแพคเบียร์หกกระป๋อง มาดื่มกับพนักงาน เพื่อการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการอยู่เสมอ ภายหลังจาการดื่มเบียร์หนึ่งหรือสองกระป๋องแล้ว พนักงานจะพูดอย่่างเปิดเผย และแสดความคิดเห็นที่จริงใจแก่ผม

คาสุโอะ อินาโมริ ได้กล่าวว่า ความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือ การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมบริษัท “ตายตัวและระบบราชการ” ของเจเอแอล
แจแปน แอร์ไลน์ จะเป็นเจ้าของโดยรัฐบาลนานกว่าสามทศวรรษ เขาได้เน้นความสำคัญของความคิดของบุคคลของบริษัทและวัฒนธรรมบริษัทของพวกเขา การเปลี่ยนแปลงความเชื่อสามารถทำลายได้ง่าย แต่โชคดีเราสามารถรักษาความเชื่อใหม่ท่ามกลางบุคคลของเราได้ คาสุโอะ อินาโมริ ได้มีการประชุมบุคคลที่จะอภิปรายปรัชญาที่ได้บรรลุความสำเร็จภายในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมบริษัทที่ฝังรากลึกของสายการบินที่ล้มเหลว การประชุมเหล่านี้ได้ต่อเนื่องตลอดปีที่จะรับรองบุคคลไม่ถอยกลับไปสู่ความพึงพอใจที่ทำให้พวกเขาพังทลาย
นอกเหนือจากการสอดแทรกและการสนับสนุนของรัฐบาลแล้ว เราจะมีปัจจัยสามอย่างที่มีส่วนช่วยต่อการฟื้นตัวอย่างน่าทึ่งของเจเอแอล การใช้เหุตผลของโครงสร้างต้นทุนด้วยการบริหารลูกโซ่อุปทานและการปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินงาน การเปลี่ยนแปลงภายในวัฒนธรรมบริษัท ด้วยการสรัางค่านิยมร่วมใหม่ท่ามกลางบุคคลทุกคน และระบบการบัญชีบริหารใหม่ “อะมีบา”
ที่จะขับเคลื่อนความรับผิดชอบทั่วทุกระดับและหน่วยธุรกิจ
ปีเตอร์ ดรัคเกอร์ กูรูทางการบริหารได้กล่าวถึงความสำคัญของวัฒนธรรมต่อกลยุทธ์ไว้ว่า “Culture Eats Strategy For Breakfast” : วัฒนธรรมกินกลยุทธ์เป็นอาหารเช้า หมายความว่าไม่ว่ากลยุทธ์ของบริษัทจะดีแค่ไหน กลยุทธ์ไม่สามารถบรรลุความสำเร็จได้เลย ถ้าวัฒนธรรมไม่สอดคล้องและสนับสนุนกลยุทธ์ วัฒนธรรมเปรียบเสมือนกำแพงอิฐที่มองไม่เห็นสามารถขัดขวางความก้าวหน้าของกลยุทธ์ได้
วัฒนธรรมบริษัทของเราจะกำหนดความสำเร็จอยู่เสมอ ไม่ว่ากลยุทธ์ของเราจะมีประสิทธิภาพอย่างไร เมื่อปีเตอร์ ดรัคเกอร์ พูดว่าวัฒนธรรมกินกลยุทธ์เป็นอาหารเช้า เขาต้องการชี้ความสำคัญของบุคคลภายในบริษัทอะไรก็ตาม ไม่ว่ากลยุทธ์ของเราจะดีแค่ไหน ถ้าบุคคลที่ดำเนินการกลยุท์ไม่ได้ยึดถือวัฒนธรรมที่เหมาะสมแล้ว การดำเนินการกลยุทธ์จะล้มเหลว
การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์การจะยุ่งยากและใช้เวลานาน วัฒนธรรมที่เข้มแข็งเป็นทั้งทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท เปรียบเสมือนดาบสองคมของวัฒนธรรมเลยทีเดียว
เนื่องจากวัฒนธรรมที่เข้มแข็งจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เรามักจะมองวัฒนธรรมว่าเป็นรอยพิมพ์นิ้วมือของผู้ก่อตั้งบริษัทได้ประทับไว้ ถ้าผู้ก่อตั้งได้ประทับไว้ลึกมากเท่าไร ผู้บริหารยิ่งลบทิ้งได้ยากขึ้นเท่านั้น อัลเล็น เค็นเนดี้ นักวิชาการ เชื่อว่า บริษัทต้องเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม เนื่องจากเหตุผล บริษัทจะต้องมีค่านิยมที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป อุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทที่มีผลการปฏิบัติงานธรรมดาหรือตกต่ำ และบริษัทเล็กและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นานหลายปีภายหลังจากการเสียชีวิตของผู้ก่อตั้ง

คาสุโอะ อินาโมริ เชื่อว่าเจเอแอลจะมีความพึงพอใจจนเกินไปภายหลังจากเศรษฐกิจได้เจริญเติบโตอย่างน่าทึ่งภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง การตัดสินใจจะล่าช้ามาก และไม่กล้าหาญอย่างแท้จริงและพลังที่จะทำการเปลี่ยนแปลงที่ฝังลึกแก่สายการบิน ที่จริงแล้ว คาสุโอะ อินาโมริ ได้กล่าวว่าความกังวลยิ่งใหญ่ที่สุดในขณะนี้ของเขาที่เขาได้เกษียณจากเจเอแอลแล้วคือ บุคคลจะกลายเป็นความพึงพอใจเกินไป หรือเชื่อมั่นเกินไปภายในการทำกำไรของบริษัทที่สายการบินจะขยายตัวและลงทุนรวดเร็วกว่ามันควรจะเป็น ผู้บริหารระดับสูงบางคนของเราคิดว่าด้วยจุดแข็งทางกำไรไม่นานมานี้ของเจเอแอล นี่จะเป็นเวลาที่ต้องรุก มันจะไม่เป็นสิ่งที่ดีเลย
ความพึงพอใจเกินไปขององค์การจะเกิดขึ้นจากพลังภายในและภายนอกที่ทำให้บริษัทไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของพวกเขาได้ จุดบอดทางการรับรู้จะเป็นพลังภายในอย่างหนึ่งที่ทำให้บริษัทไม่เข้าใจการคุกคามจากเทคโนโลยีใหม่หรือคู่แข่งขันรายใหม่ได้ แดนนี่ มิลเล่อร์
ได้กล่าวถึงผู้บริหารของบริษัทที่บรรลุความสำเร็จว่ามักจะมีจุดบอดทางการรับรู้ เมื่อเทคโนโลยีใหม่และคู่แข่งขันรายใหม่ปรากฏขึ้นมา ตามมุมองของแดนนี่ มิลเลอร์ แล้ว
ผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้ได้กลายเป็นตาพร่าจากความสำเร็จเริ่มแรกของพวกเขา และทำให้พวกเขามีความเชื่อมั่นตนเองสูงเกินไปและมองไม่เห็นอันตรายจากการพัฒนาอย่างอื่นที่ปรากฏขึ้นต่อพวกเขา แดนนี่ มิลเล่อร์ จะเรียกว่าจุดบอดทางการรับรู้ พฤตกรรมนี้มักจะนำไปสู่ การตกต่ำของพวกเขา เหมือนกับเรื่องราวของ อิคารัส พาราดอกซ์ ของเขา
อิคารัส เป็นเทพเจ้าแห่งกรีซ เขาสามารถใช้ปีกขี้ผึ้งบินหนีออกจากคุกได้สำเร็จ สิ่งเดียวกันที่ทำให้อิคารัสบรรลุความสำเร็จ – ปีกขี้ผึ้ง ได้นำเขาไปสู่การเสียชีวิต เนื่องจากความเชื่อมั่นที่สูงจนเกินไป เขาได้บินสูงขึ้นไป จนมองไม่ห็นอันตรายจากการบินใกล้ดวงอาทิตย์ ทำให้ปีกขึ้ผิ้งละลาย และตกทะเลตายในที่สุด
ข้อเท็จจริงที่เรารู้กันดีว่าไอบีเอ็มได้สูญเสียข้อได้เปรียบทางการแข่งขันไป เนื่องจาก อีคารัส พาราดอกซ์ได้สร้างความเฉื่อยชาทางองค์การแก่ไอบีเอ็ม จนทำให้ไอบีเอ็มต้องเผชิญกับวิกฤติ โชคดีที่ไอบีเอ็มสามารถฟื้นฟูบริษัทได้สำเร็จ จอห์น เอเกอร์ ซีอีโอ ได้ลาออกไป ภายหลังจากความล้มเหลวที่เขาไม่สามารถจะฟื้นฟูให้ไอบีเอ็มทำกำไรได้ ไอบีเอ็มได้ว่าจ้างลูว์ เกิรทเนอร์ บุคคลภายนอก เข้ามาเป็นซีอีโอ และสามารถชุบชีวิตบริษัทให้อยู่รอดได้อีกครั้งหนึึ่ง เขาได้เขย่าวัฒนธรรมเมนเฟรม คอมพิวเตอร์ การมุ่งที่ประสิทธิภาพและนวัตกรรม การกระทำทุกอย่างของลูว์ เกิรทเนอร์ จะมุ่งที่การปรับปรุงความพอใจของลูกค้าและการบริการ ไอบีเอ็มได้สร้างโมเดลทางธุรกิจใหม่ ที่ไม่ได้อยู่บนรากฐานของเมนเฟรม คอมพิวเตอร์

เดอะ อิคารัส พาราดอกซ์ แดนนี่ย์ มิลเล่อร์ นักเศรษศาสตร์ชาวคานาดา มหา
วิทยาลัยแมคกริลล์ ได้เขียนหนังสิอเล่มหนึ่งชื่อ Icarus Paradox เมื่อ ค.ศ 1990 หนังสือเล่มนี้จะสอดคล้องกับคำกล่าวของแอนดี้ โกรฟ ที่ว่า ความสำเร็จจะแพร่พันธุ์ความหลงพึงพอใจ ความหลงพึงพอใจจะแพร่พันธุ์ความล้มเหลว ผู้กระวนกระวายเท่านั้นที่อยู่รอด อิคารัส พาราดอกซ์ เป็นหนังสือเกี่ยวกับบริษัทที่บรรลุความสำเร็จได้กลายเป็นบริษัทที่ตกต่ำอย่างไร อิคารัส พาราดอกซ์ ได้ประยุกต์ใช้กับบริษัทที่บรรลุความสำเร็จ ความสำเร็จทำให้บริษัทหยิ่งยะโส และในไม่ช้าบริษัทได้สูญเสียกับการมองเห็นความเป็นจริง และได้นำไปสู่การตกต่ำ
ชื่อของหนังสือเล่มนี้ได้มาจากเรื่องราวอิคารัส ตำนานของกรีก เรื่องราวของชาวกรีซได้เล่าว่าเดดาลัส นักประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งเกาะครีต ภายใต้การปกครองของกษัตริย์
ไมโนส เดดาลัส มีลูกชายคนหนึ่งชื่ออิคารัส ครั้งหนึ่งกษัตริย์ไมโนสไม่พอใจเดดาลัส และได้เนรเทศเดดาลัสและลูกชายไปที่เกาะกลางทะเลแห่งหนึ่ง
เดดาลัสได้บอกกับลูกชายว่าวันหนึ่งเราต้องหนีให้ได้
แต่ละวันพวกเขาได้เฝ้ามองจากหน้าต่างเห็นท้องทะเลสีครามและฝูงนกนางนวลบินอย่างอิสระ วันหนึ่งอิคารัสได้ฆ่านกนางนวลตัวหนึ่งและนำมาให้พ่อดู เดดารัส ได้เกิดความคิดทันที ด้วยการใช้ขนนกนางนวลเป็นปีกติดด้วยขี้ผิ้ง และกระพือปีกจนบินได้จริง เพื่อที่จะบีนหนีไปจากเกาะ แต่เขาได้เตือนอิคารัสว่า อย่าบินสูงใกล้ดวงอาทิตย์จนเกินไป เพราะว่าแสงอาทิตย์จะละลายขี้ผึ้งทำให้ตกทะเลได้
เริ่มแรกอิคารัสบินด้วยความระมัดระวัง แต่ความเชื่อมั่นได้เกิดขึ้นทีละน้อย และเริ่มต้นสนุกสนานกับการบินได้ของเขา เขาได้บินสูงขึ้นและสูงขึ้น พ่อของเขาได้ร้องตะโกนว่า “อย่าบินสูงเกินไป” แต่อิคารัสไม่ได้ยิน
และความคึกคะนองของอิคารัส อยากจะรู้ว่าบินได้สูงแค่ไหน เขาได้บินสูงขึ้นไปจนใกล้ดวงอาทิตย์ ขี้ผึ้งละลายทำให้อิคารัสตกทะเลอีเจียนตายในที่สุด
นี่คือทำไมเราได้เรียกว่า อิคารัส พาราดอกซ์ สิ่งเดียวกันที่ทำให้อิคารัสบรรลุความสำเร็จบินได้และหนีจากคุก และสิ่งเดียวกันที่ทำให้เขาตกทะเลตาย เนื่องจากความเชื่อมั่นมากเกินไป อิคารัสได้กลายเป็นมองไม่เห็นอันตรายจากการบินใกล้ดวงอาทิตย์มากเกินไป
นี่คือสิ่งที่เรามักจะมองเห็นบริษัทที่บรรลุความสำร็จได้กระทำอย่างเดียวกัน บริษัทได้บรรลุความสำเร็จจากการ
กระทำสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ได้ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่นมากเกินไป และมองไม่เห็นอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และได้นำบริษัทไปสู่การตกต่ำในที่สุด
คำว่า พาราดอกซ์ หมายถึงสิ่งที่มีความขัดแย้งภายในตัวเอง การคิดค้นปีกได้ช่วยให้อิคารัสบินหนีจากคุกได้ แต่ในที่สุดได้นำไปสู่การตกทะเลตาย เนื่องจากความเชื่อมั่นที่สูงเกินไปของอิคารัส เขากลายเป็นมองไม่เห็นอันตรายจากการบินใกล้ดวงอาทิตย์จนเกินไป คำพูดประชดคือปีกทำให้
อิคารัสบินได้ ดังนั้นความขัดแย้งภายในตัวเองคือ ทรัพย์สินยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ได้นำเขาไปสู่การเสียชีวิตของเขาด้วย
แดนนี่ มิลเลอร์ ได้วิจัยบริษัทมากกว่า 200 บริษัท ได้ค้นพบว่าความสำเร็จจะดึงดูดบริษัทไปสู่ความล้มเหลว ด้วยการยุยงความเชื่อมั่นเกินไป ความหลงพึงพอใจ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การกล่าวเกินจริง และการดื้อรั้น การบรรลุความสำเร็จของบริษัทได้เพราะพันธ์ุเมล็ดของการตกต่ำในอนาคตของบริษัท สาระสำคัญคือความสำเร็จสร้างความเชื่อมั่นต่อทางเลือกของการกระทำในขณะนี้ และความเชื่อมั่นจะอคติต่อการตัดสินใจในอนาคต
เมล็ดพันธุ์ของการตกต่ำจะหว่านภายในความสำเร็จของกลยุทธ์ที่ผ่านมา บริษัทที่บรรลุความสำเร็จจะมองไม่เห็นอันตรายจากการพัฒนาทางธุรกิจ และได้นำบริษัทไปสู่การตกต่ำในที่สุด การบรรลุความสำเร็จของโนเกียทำให้มองไม่เห็นอันตรายจากสมาร์ทโฟน และอิคารัส พาราดอกซ์ได้นำโนเกียไปสู่ความล้มเหลวในทีสุด โนเกียประเมินจุดแข็งและชัยชนะของบริษัทสูงเกินไป และประเมินคู่แข่งขันของพวกเขา เช่น แอปเปิ้ล และซัมซุง ต่ำเกินไป
ภายในอุตสาหกรรมหลายอย่าง บริษัทที่บรรลุความสำเร็จมักจะเผชิญกับปัญหาของการรักษาความสำเร็จไว้อย่างต่อเนื่อง

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *