ไต่สวนถอดถอน”ทรัมพ์”ชักเข้าเค้า

สบาย สบาย สไตล์เกษม

เกษม อัชฌาสัย

ไต่สวนถอดถอน”ทรัมพ์”ชักเข้าเค้า

เมื่อวันอังคาร(๒๒ตค.)ที่ผ่านมานี้ คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เชิญนายบิล เทย์เลอร์เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำสถานทูตสหรัฐ(ระดับอุปทูต)แห่งประเทศยูเครน ไปให้ปากคำ ในกระบวนการ”อิมพีชเมนต์”ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ตามเบาะแสที่”ผู้เป่านกหวีด”(คาดว่าคือเจ้าหน้าที่ในวงการข่าวกรองสหรัฐ)แจ้งความไม่ชอบมาพากลให้ทางพรรคเดโมแครตได้รับทราบ

เป็นการไต่สวนหาหลักฐานเพื่อเอาผิดอันจะนำไปสู่การถอดถอนนายโดนัลด์ ทรัมพ์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ฐานใช้ผู้นำต่างชาติเป็นเครื่องมือแทรกแซงการเมืองและทำลายชื่อเสียงคู่แข่งของ”ทรัมพ์”ในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้า ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในปลายปี ๒๕๖๓

คู่แข่งของ”ทรัมพ์”ก็คือนายโจ ไบเดน สังกัดพรรคเดโมแครตและเคยเป็นอดีตรองประธานาธิบดีในสมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา

ผู้นำต่างชาติที่ว่าก็คือ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน

กระแสข่าวระบุว่า ในการนี้”ทรัมพ์”ได้โทรศัพท์ขอให้ผู้นำยูเครน สั่งสอบสวนนายโจ ไบเดนและนายฮันเตอร์(ลูกชายของ”ไบเดน)ว่ามีพฤติกรรมฉลฉ้ออะไรหรือไม่และขอให้ประกาศการสั่งการสอบสวนออก ต่อสาธารณะให้ได้รับทราบด้วย ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ไม่สำคัญ แต่ขอให้ได้ทำลายชื่อเสียงของ”ไบเดน”ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว

แต่เมื่อ”เซเลนสกี”ไม่ทำตามที่ร้องขอ “ทรัมพ์”ก็เลยสั่งระงับความชวยเหลือคือการส่งมอบเครื่องยิงจรวดจำนวนหนึ่งที่สัญญาว่าจะให้ยูเครนไว้ป้องกันประเทศเสียเฉยๆ

การสอบสวนโดยใช้อำนาจเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ปรากฎว่าทำเนียบขาวไม่ยอมร่วมมือด้วยอ้างว่าพรรคเดโมแครต กระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยไม่เรียกประชุมสภาทั้งหมดโหวตเสียง จึงไม่ยอมส่งคนไปให้การ หรือส่งเอกสารไปให้คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามที่ขอไป

แต่กระนั้น ก็ไม่อาจขัดขวางการสอบสวนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะกรรมาธิการสภาฯ สามารถออกหมายเรียกตัวคนอื่นๆนอกแวดวงทำเนียบขาว ไปให้ปากคำหลายคนแล้ว

จนในที่สุดก็ได้บุคคลที่สำคัญมาก(เพราะเกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูลรายละเอียดระหว่าง”ทรัมพ์”กับ”เซเลนสกี”โดยตรง) คือ นายบิล เทย์เลอร์ผู้นี้

ข้อมูลของ”เทย์เลอร์”สำคัญอย่างไร พิจารณาได้จากสาระต่อไปนี้ก

-ในการให้ปากคำ”เทย์เลอร์”ระบุชื่อบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องพัวพันกับนายจูดี จูลิอานี ทนายส่วนตัวของ”ทรัมพ์”(ผู้มีข่าวหนาหูว่าจะขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนต่อไป) ซึ่งเขา(จูลิอานี)ใช้บุคคลเหล่านั้น เป็นเครื่องมือกดดันให้ยูเครนสอบสวนคู่แข่งทางการเมืองและหนึ่งในบุคคลที่ว่าก็คือ นายกอร์ดอน ซอนด์แลนด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหภาพยุโรป

-“เทย์เลอร์”ให้ปากคำว่า “กอร์ดอน ซอนด์แลนด์”เล่าให้ฟังว่า ได้บอกกับประธานาธิบดียูเครน”เซเลนสกี”ให้ใช้ถ้อยคำว่า I will leave no stone unturned (ในสำนวนภาษาอังกฤษหมายถึง”จะค้นหาทุกซอกทุกมุม”) เวลาเจรจากับ”ทรัมพ์”ในความหมายที่ว่าจะ “สอบสวน” ”โจ ไบเดน”และคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาในบริษัทพลังงาน”บูริสมา”ของยูเครน ที่ลูกชายเขาคือนาย”ฮันเตอร์”ทำงานอยู่ ซึ่งอาจจะมีการสมคบกันระหว่างชาวยูเครนกับพรรคเดโมแครต ครั้งที่สหรัฐมีการเลือกตั้งในปี ๒๐๑๖

-การให้ปากคำระบุว่า “กอร์ดอน ซอนด์แลนด์”บอก”เทย์เลอร์”ว่า “ทรัมพ์”ต้องการให้เขาบอก”เซเลนสกี”ว่า ให้ออกประกาศต่อสาธารณะว่า ยูเครนจะสอบสวนบริษัท”บูริสมา”และกล่าวหาชาวยูเครน(ไม่ชัดเจนว่าใคร)ด้วยว่าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี ๒๐๑๖

การที่สหรัฐไม่ส่งความช่วยเหลือให้ยูเครน “เทย์เลอร์”เพิ่งรู้เหตุผลจากผู้ช่วยของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ”ทิม มอริสัน”ว่า”ซอนด์แลนด์”ได้พูดจากับที่ปรึกษาของ”เซเลนสกี”คือ “อันดรี เยอร์มัก”ว่า “ความช่วยเหลือจะไม่มา จนกว่า”เซเลนสกี”จะสั่งสอบสวนบริษัท”บูริสมา””ซึ่งก็เข้าคำพังเพย “หมูไป ไก่มา”ตามที่ว่ากัน

-“เทย์เลอร์”บอกว่าประธานาธิบดี”ทรัมพ์”ยืนกรานให้ประธานาธิบดี”เซเลนสกี”แถลงดำเนินการสอบสวน”โจ ไบเดน”และให้ระบุด้วยว่า มีการแทรกแซงการเลือกตั้งปี ๒๐๑๖ โดย”เซเลนสกี”จะต้องประกาศเรื่องนี้ด้วยตนเอง ซึ่ง”เทย์เลอร์”วิจารณ์ต่อหน้าคณะกรรมธิการสภาผู้แทนฯว่า “เป็นการกระทำที่”ลดราคา”undercut นโยบายต่างประเทศของชาติซึ่งกระทำโดยกลุ่มที่มีนาย”จูลิอานี”เป็นผู้นำ

ทั้งหมดนี้ เป็นการสรุปความ อย่างย่นย่อ จากเอกสาร ๑๕ หน้าของ”เทย์เลอร์”ที่ใช้ประกอบคำให้การซึ่งสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้มา แล้วนำออกเผยแพร่ ต่อสาธารณชน

ขณะที่เขียนเรื่องนี้ ยังไม่มีรายงานว่า ทรัมพ์”แสดงปฏิกิริยาอย่างไรต่อคำให้การของ “บิล เทย์เลอร์” มีแต่หัวหน้าเสียงส่วนน้อยในสภาผู้แทนฯ”เควิน แม็คคาร์ธี”สังกัดพรรครีพับลิกันจากแคลิฟอร์เนีย ออกมาให้ข่าวว่า ส.ส.ภายในพรรคคนหนึ่งคือ”จอห์น แรตคลิฟ”หนึ่งในคณะกรรมาธิการข่าวกรองและคณะกรรมาธิการตุลาการซึ่งสอบ”เทย์เลอร์”ใช้เวลาแค่ ๙๐ วินาที ”ตีตก” คำให้การของ”เทเลอร์”ทั้งหมด แต่เปิดเผยอะไรไม่ได้ เพราะเป็นการประชุมให้ปากคำแบบปกปิด

อย่างไรก็ตาม ขณะที่อ่านเรื่องนี้ บางที”ทรัมพ์”อาจออกมาโวยวายตอบโต้ ตามสไตล์บู๊ล้างผลาญ ไปเรียบร้อยแล้วก็ได้