INEWHORIZON

ขอบฟ้าใหม่

All Quiet on the Western Front

All Quiet on the Western Front

กลยุทธ์การหดตัวของธุรกิจจะถูกเปรียบเทียบต่อสงครามสนามเพลาะ
เเนวรบด้านตะวันตก ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เพราะว่าทั้งสองจะ
เกี่ยวพันกับการล่าถอยทางกลยุทธ์ หรือ “ล่่าถอยเล็กน้อย” ที่จะหลีกเลี่ยง
ความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง ภายในธุรกิจมันหมายถึงการลดขนาดหรือขอบ
เขตของบริษัทที่จะปรับปรุงความมั่นคงทางการเงิน เหมือนกับทหารละทิ้ง
สนามเพลาะที่จะล่าถอยไปสู่ตำแหน่งที่สามารถป้องกันได้มากขึ้นอย่างไร
ภายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และนิยาย All Quiet on the Western Front ของเอริช มาเรีย เรอร์มาร์ค สงครามสนามเพลาะเป็นรูปแบบของ
การต่อสู้ที่โหดร้ายเกี่ยวพันกับการป้องกันที่ขุดลงไปเรียกว่าสนามเพลาะ
นำไปสู่การสู้รบที่ยืดเยื้ออยู่นิ่งภายในสถานที่

อย่างเช่น “แนวรบด้านตะวัน
ตก” ถ้อยคำ All Quiet on the Western Front เป็นชื่อแดกดันอย่างลึกซึ้ง
ของนิยาย แสดงต้นทุนมนุษย์สูงมากของสงคราม และการไม่สนใจอย่าง
ใจดำของการทหารต่อชีวิตของทหาร มันสะท้อนลักษณะระบบราชการ
ของรายงานทหารเป็น”ทั้งหมดเงียบสงบ” ทั้งที่ความเป็นจริงอย่างน่ากลัวเผชิญโดยทหารบนแนวหน้า
กลยุทธ์อยู่ ณ รากฐานของการตัดสินใจทุกอย่าง ที่ต้องกระทำภายในองค์การ ถ้ากลยุทธ์ถูกกำหนดเเละดำเนินการไม่ดีโดยผู้บริหารระดับสูง
กลยุทธ์จะมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อการบรรลุความสำเร็จขององค์การ ตามถ้อยคำ “ไม่มีใครรู้อย่างแท้จริงกลยุทธ์คืออะไร” แสดงความยุ่งยากภายในการนิยามกลยุทธ์ คำนิยามเดียวยอมรับกันโดยทั่วไปมันจะเเสดงความเครือและความซับซ้อน รอบแนวคิดของกลยุทธ์ โดยเฉพาะภายในบริบทของธุรกิจ
โดยทั่วไปเราจะมีกลยุทธ์แตกต่างกันสามระดับคือ กลยุทธ์ระดับบริษัท
กลยุทธ์ระดับธุรกิจ และกลยุทธ์ระดับหน้าที่ และกลยุทธ์สามระดับเหล่านี้
สามารถถูกแสดงเป็นพีรามิดของกลยุทธ์
*กลยุุทธ์ระดับบริษัท
กลยุทธ์ระดับบริษัทนำทางทิศทางโดยส่วนรวมและขอบเขตของบริษัท รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมและตลาดอะไรที่จะเเข่งขัน เราควรจะอยู่ภายในธุรกิจอะไร เราจะจัดสรรทรัพยากรระหว่างธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างไร เราจะบรรลุการเสริมแรงระหว่างหน้วยธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างไร ตัวอย่างของกลยุทธ์ระดับบริษัืทคือการเจริญเติบโต การอยู่คงที่ และการหดตัว
*กลยุทธ์ระดับธุรกิจ
กลยุทธ์ระดับธุรกิจจะมุ่งที่การแข่งขันภายในตลาดเฉพาะ หน่วยธุรกิจ
จะเเข่งขันภายในอุตสาหกรรมหรือตลาดที่ถูกเลือกอย่างไร เราสามารถ
สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างไรลูกค้าเป้าหมายของเราคือใคร และเราตอบสนองพวกเขาอย่างไร เราได้แตกต่างตัวเราเองจากคู่เเข่งขันอย่างไร ตัวอย่างของกลยุทธ์ระดับธุรกิจคือ ความเป็นผู้นำทางต้นทุน การ
สร้างความแตกต่าง และการจำกัดขอบเขต
*กลยุทธ์ระดับหน้าที่
กลยุทธ์ระดับหน้าที่จะมุ่งเน้นการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพภายในแผนกงาน หน้าที่แต่ละอย่าง การตลาด การผลิต หรือการเงินจะสนับสนุน
กลยุทธ์ระดับธุรกิจอย่างไร เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและ
ทรัพยากรสนับสนุนกลยุทธ์ระดับธุรกิจอย่างไรตัวอย่างของกลยุทธ์ระดับ
หน้าที่คือ กลยุทธ์การผลิต กลยุทธ์การตลาด และกลยุทธ์การเงิน
เมื่อบริษัทเผชิญกับผลการดำเนินงานตกต่ำลง ยอดขายหรือรายได้ลดลง และกำไรได้กลายเป็นขาดทุน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย การคุกคามจากคู่แข่งขันรายใหม่ การขยายตัวมากเกินไป หรือฐานะการแข่ง
ขันของบริษัทอ่อนแอลง ดังนั้นบริษัทจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ของการหดตัวลง เพื่อที่จะปรับปรุงผลการดำเนินงานให้ดีขึ้น กลยุทธ์การหดตัวเกี่ยวพัน
กับบริษัทลดขนาดโดยส่วนรวมหรือขอบเขตของการดำเนินงาน
มันเป็นการก้าวไปทางกลยุทธ์ที่มักจะถูกใช้เมื่อบริษัทเผชิญกับความยุ่งยากทางการเงินหรือผลการดำเนินงานตกต่ำลง คล้ายกับการล่าถอยทางทหาร ที่จะรวมกองกำลังและรวมกลุ่มใหม่ กลยุทธ์นี้สามารถเกี่ยวพันกับการกระทำอย่างหลากหลายอย่างเช่น การลดขนาด การลดต้นทุน การขายธุรกิจ หรือแม้แต่่การเลิกธุรกิจ
ภายในบริบทของสนามเพลาะทางทหาร การหดตัวอ้างถึงกลยุทธ์การ
ป้องกัน ตรงที่กองทัพป้องกัน ได้ถูกบังคับให้ละทิ้งสนามเพลาะเนื่องจาก
ศัตรูรุกหน้าล่าถอยกลับไปแนวของสนามเพลาะต่อไป การจัดตั้งใหม่และ
การป้องกันจากที่นี่ วิถีทางนี้คล้ายกับกลยุทธ์การหดตัวของธุรกิจ ตรงที่
บริษัทได้หดตัวการดำเนินงานของมันที่จะอยู่รอด ที่คล้ายมากกับกองทัพ
ทำการล่าถอยเล็กน้อย แทนการเผชิญกับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
ถ้อยคำ “การหดตัว” ได้กำเนิดมาจากกลยุทธ์ทางทหาร โดยเฉพาะการ
สู้รบกันของสงครามสนามเพลาะ ตรงที่กองทัพป้องกันจะล่าถอยไปสู่เเนวของสนามเพลาะต่อเนื่องกันหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ทั้งหมดภายในบริบท
ของธุรกิจ กลยุทธ์นี้ได้ถ่ายทอดไปสู่บริษัทโดยการหดตัวการดำเนินงานของมันที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและทำกำไร ผู้บริหารจะต้องหดตัวบริษัทให้มีขนาดที่เล็กลง ถ้าเป็นกลยุทธ์ทางทหารจะถูกเรียกกันว่า กลยุทธ์การตั้งรับ กลยุทธ์การหดตัวจะมีอยู่สามอย่างคือกลยุทธ์การฟื้นฟู กลยุทธ์การขายธุรกิจ และกลยุทธ์การเลิกธุรกิจ
กลยุทธ์การหดตัวมีขั้นตอนที่สำคัญสองขั้นคือ ขั้นแรกคือ การลดขนาดบริษัทให้เล็กลงด้วยการลดจำนวนบุคคลลง และการขายธุรกิจบางอย่างออกไป ขั้นตอนที่สองคือ การฟื้นฟูบริษัทด้วยการปรับปรุงผลการดำเนินของธุรกิจที่มีอยู่ให้ดีขึ้น เพื่อที่จะทำให้บริษัทกลับไปสู่การขยายตัวได้อีกครั้งหนึ่ง ภายในการหดตัว ขั้นตอนสองขั้นเปรีนบเทียบได้กับขั้นตอนที่จะ
ตัดแต่งดอกกุหลาบ ด้วยการกำจัดไม้ตายซาก และเลือกกิ่งก้านที่แข็งเเรงไหนที่จะตัดแต่งกลับ ข้อเเรกกิ่งก้านที่ตาย เป็นโรค และหัก – ไม้ตายซาก – ได้ถูกกำจัด ที่จะปรับปรุงความแข็งแรงของต้นไม้โดยส่วนรวม คล้ายคลึง
กับดอกกุหลาบถูกตัดเเต่งอย่างไรที่จะกำจัดส่วนที่ไม่เเข็งแรง ข้อสองการเลือกกิ่งก้านที่เเข็งแรงจะถูกตัดเเต่งใหม่ที่จะควบคุมขนาด รูปร่าง กระตุ้น
การเจริญเติบโตใหม่การเลียนแบบการตัดแต่งทางกลยุทธ์ของลำต้นดอกกุหลาบกระตุ้นการเบ่งบาน
กระบวนสองขั้นตอนของกลยุทธ์หดตัวอาจจะเปรียบเทียบได้กับการตัด
แต่งต้นกุหลาบมันเกี่ยวพันกับสองขั้นตอนก่อนที่จะถึงฤดูกาลเจริญเติบโต ต้นกุหลาบควรจะถูกตัดเล็มกิ่งก้านลงสองในสามของขนาดปรกติ การตัดเล็มไม่ได้ทำให้ต้นกุหลาบตาย แต่การตัดเล็มทำให้ต้นกุหลาบแข็งแรงขึ้นและพร้อมที่จะออกดอกสวยงามและกลิ่นหอม ที่เราอาจจะมองเหมือนกับเป็นการลดน้ำหนักและการทำให้แข็งแรงขึ้น
*การกำจัดไม้ตาย
การกำจัดไม้ตายภายในกุหลาบหมายถึงการกำจัดก้านที่ตาย เสียหาย
หรือเป็นโรค มันจะเป็นกิ่งก้านตายแล้ว สีน้ำตาล และบอบบางไม่ให้การ
เจริญเติบโต หรือออกดอกต่อไป ภายในธุรกิจ มันได้ถ่ายทอดไปสู่การ
ลดต้นทุนการดำเนินงาน การปลดบุคคลออกจากงาน การเลิกแผนกงาน
ที่ไม่สำคัญ หรือการปิดหน่วยธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ระหว่างการหดตัวมันจะ
คล้ายกับการกำจัดกิ่งก้านที่ตายหรือเป็นโรคบนพุ่มกุหลาบที่ไม่ได้มีส่วน
ช่วยต่อการเจริญเติบโต และสามารถขัดขวางความเเข็งเเรงโดยส่วนรวม
ของต้นไม้ ขั้นตอนนี้จะสำคัญต่อการปรับปรุงสุขภาพและประสิทธิภาพ
โดยส่วนรวมของบริษัท โดยการตัดไม้ตายซากออกไป ที่ธุรกิจสามารถ
ปลดปลดปล่อยทรัพยากรอย่างเช่น เวลา เงิน หรือพลัง มุ่งด้านที่สำคัญ
มากขึ้น
*การเลือกการตัดเเต่งต้นไม้
ภายหลังการกำจัดไม้ตายขั้นตอนต่อไปคือ การเลือกตัดเเต่งกิ่งก้านที
เเข็งเเรง
มันเกี่ยวพันกับการเลือกกิ่งก้านไหนที่จะตัดทอน กระตุ้นการเจริญเติบโต
ใหม่ภายในทิศทางเฉพาะ ดอกกุหลาบจะถูกตัดแต่งกิ่งก้านปรับปรุงการ
หมุนเวียนอากาศและการส่งผ่านแสงเเดด มันมักจะเกี่ยวพันกับการกำจัด
กิ่งก้านที่ข้ามกันหรือถูกัน แม้ว่ามันจะเเข็งเเรง ที่จะป้องกันความเสียหาย
ในอนาคต และส่งเสริมการเจริญเติบโตที่เเข็งเเรงภายในบริบทธุรกิจ มัน
ถ่ายทอดเป็นการตัดสินใจทางกลยุทธ์ที่เกี่ยวกับด้านไหนของธุรกิจที่จะ
ให้ความสำคัญ ลงทุน หรือปรับปรุงโครงสร้าง
มันจะเกี่ยวพันกับการปรับปรุงโครงสร้างแผนกงาน การทำให้กระบวน
การคล่องตัว หรือการขายธุกิจที่ไม่ใช่แกน มันเกี่ยวพันกับการเลือกด้าน
ไหนของธุรกิจที่จะมุ่งเพื่อการพัฒนาและการเจริญเติบโตในอนาคตมันจะ
คล้ายกับการเลือกกิ่งก้านไหนของกุหลาบที่จะรักษาไว้ บนพื้นฐานโอกาส
ของมันที่จะเจริญเติบโตและออกดอกใหม่ ขั้นตอนนี้ต้องการการคิดทาง
กลยุทธ์และความเข้าใจอย่างชัดเจนของเป้าหมายและลำดับความสำคัญ
ของธุรกิจ
โดยการเปรียบเทียบ การหดตัวเกี่ยวพันกับกระบวนการที่คล้ายกันของ
การระบุและกำจัดความไม่มีประสิทธิภาพ – ไม้ตายซาก – และการมุ่งทางกลยุทธ์ทรัพยากรและความพยายามบนด้านที่สำคัญเพื่อการเจริญเติบโต
ในอนาคต – การเลือกตัดแต่งต้นไม้ –
ณ บางเวลาภายในความเป็นมาของบริษัท บริษัทดีเด่นบางบริษัทอาจจะ
เผชิญกับการเฉื่อยชาหรือผลการดำเนินงานตกต่ำลงผู้บริหารและผู้ถือหุ้นมักจะเจ็บปวด เราจะต้องยอมรับว่าบริษัทมีขึ้นและมีลง เมื่อสภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนแปลงไป แต่ความเชื่อทางปรัชญาทางตะวันตกที่ว่า “เราจะต้องเจริญเติบโตหรือตาย” ได้สร้างปัญหาทางจิตใจต่อการตกต่ำลงของบริษัท
กลยุทธ์การขยายตัวไม่ใช่จะดีที่สุดต่อบริษัทเสมอไป กลยุทธ์ของบริษัท
ต้องสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกบางครั้งกลยุทธ์การ
หดตัวอาจจะเป็นกลยุทธ์ดีที่สุดได้
ก่อน ค.ศ 1980 ผู้บริหารได้มองว่าการหดตัวจะเป็นการสบประมาท ไม่มี
ผู้บริหารคนไหนเลยยอมรับว่ากำลังใช้กลยุทธ์การหดตัวอยู่ แต่ต่อมาการบริหารการตกต่ำของบริษัทได้กลายเป็นหัวข้อการวิจัยมากที่สุด และเป็นโรงเรียนการบริหารที่ดีที่สุด การหดตัวอาจจะเป็นทางเลือกที่เจ็บปวดของผู้บริหาร เนื่องจากผู้บริหารอาจจะถูกมองว่าล้มเหลว แต่การหดตัวจะเป็นโอกาสแก่ผู้บริหารที่จะฟื้นฟูบริษัทขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง


สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รู้จักกันเป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่ เป็นการสู้รบระดับ
โลกยาวนานจาก ค.ศ 1941 ถึง ค.ศ 1918. การทำให้เยอรมัน ออสเตรีย
ฮังการีต้องต่อสู้กับอ้งกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย อิตาลี และญี่ปุ่นด้วย
เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่ และสงครามสนามเพลาะได้ทำให้เกิดการนอง
เลือดอย่างไม่เคยมีมาก่อน ณ ตอนเวลาสงครามสิ้นสุดลง และมหาอำนาจ
พันธมิตรได้อ้างชัยชนะ บุคคลมากกว่า 16 ล้านคน ทหารและประชาชน
เสียชีวิต การลอบสังหารอาร์คดยุค เฟอร์ดินานด์ แห่งออสเตรีย-ฮังการี
ภายในซาราเยโวเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งแต่ปัจจัยระยะ
ยาวอย่างเช่น ชาตินิยม จักวรรดิ์นิยม ทหารนิยม และระบบพันธมิตรที่ซับ
ซ้อนได้แสดงบทบาทที่สำคัญ
สงครามสนามเพลาะภายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเกี่ยวพันกับระบบของ
สนามเพลาะป้องกันตรงที่ทหารมีชีวิตอยู่เเละต่อสู้จากสนามเพลาะโดยพื้นฐานอยู่บนแนวรบด้านตะวันตก เนื่องจากการคุมเชิงระหว่างกองทัพที่ตรง
กันข้าม สไตล์ของสงครามนี้ แสดงโดยวางแผนระบบสนามเพลาะและพื้น
ที่ระหว่่างเเนวรบระหว่างพวกเขาทำให้เกิดการต่อสู้อย่างนองเลือดและอยู่กับที่ด้วยการเสียชีวิตที่สูง สนามเพลาะเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนของเเนวคู่ขนานรวมทั้งสนามเพลาะยิง สนามเพลาะสนับสนุนและสนามเพลาะสื่อสาร
สนามเพลาะมักจะถูกป้องกันด้วยลวดหนามและสิ่งกีดขวางอื่น และพื้นที่ระหว่างสนามเพลาะตรงกันข้าม จะไม่มีป้องกันต่อการยิงปืนใหญ่จากทั้งสองฝ่ายเป็นสภาพเเวดล้อมที่รกร้าง ระบบสนามเพลาะวิวัฒนาการมาจากที่พักหลุมลบภัยธรรมดา ไปสู่ตำแหน่งป้องกันที่ซับซ้อน ด้วยสนามเพลาะ
บางเเห่งลึกลงไปหลายไมล์
สนามเพลาะเกิดขึ้นเนื่องจากความก้าวหน้าภายในอาวุธ อย่างเช่น ปืนกล
และปืนใหญ่ นำหน้าความสามารถของกองทัพที่จะรุกหน้า มันได้นำไปสู่
ข้อได้เปรียบทางการป้องกันต่อทหารภายในสนามเพลาะ ทั้งที่ได้ให้การป้องกันบางอย่างจากการยิงโดยตรง สนามเพลาะไม่มีการป้องกันต่อการระดมยิงด้วยปืนใหญ่ โรคภัยไข้เจ็บ และอันตรายของพื้นที่ระหว่่างสนาม
เพลาะระหว่างการโจมตี ชีวิตภายในสนามเพลาะจะยากลำบากด้วยทหาร
เผชิญกับโคลน หนู และเขื้อโรค อย่างเช่น ไข้ติดเขื้อ โรคเท้าเปื่อย


All Quiet on the Western Front ชื่่อตัวมันเองจะสำคัญ มันอ้างถึงช่วง
เวลาของการหยุดนิ่ง ตรงที่มีการสู้รบจะน้อย แต่เศร้าสลดด้วย ต่อความ
เงียบแห่งความตายในที่สุดเกิดขึ้นกับทหารทุกคน ชื่อจะเป็นตัวอย่างที่มี
พลังของการประชดในขณะที่มันเสนอแนะสถานการณ์ความสงบและไม่
มีเหตุการณ์ใด ถ้อยคำแท้จริงได้อ้างถึงตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงระหว่าง
ความสงบข้างนอกของสนามรบ และความเป็นจริงที่น่ากลัวของสงคราม
เผชิญโดยทหาร ชื่อได้แสดงความท้อแท้ และบาดแผลเผชิญโดยทหาร
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
All Quiet on the Western Front ได้ถูกกำเนิดจากนิยายเยอรมัน Im
Westen nichts Neues โดย อีริช มาเรีย เรอมาร์ค ชื่อภาษาอังกฤษ All
Quiet on the Western Front. เป็นการแปลโดยตรงของชื่อเยอน และกลายเป็นชื่อที่รับรู้อย่างกว้างขวางของนิยาย ถ้อยคำ All Quiet on the
Western Front. ได้ถูกใช้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง กำเนิดมาจาก
รายงานทางทหารจากแนวหน่้า การแสดงว่าไม่มีการกระทำที่สำคัญหรือเปลี่ยนแปลงบนแนวรบเฉพาะนั้น
ชื่อได้แสดงความเเดกดันเพราะว่าความเงียบอธิบายภายในรายงานเป็นความสงบที่หลอกลวงการปิดบังความทุกข์ยาก ความตาย และการทำลาย
มากมายเกิดขึ้นบนพื้นที่ นิยายเรื่องนี้ ได้ใช้การเเดกดันนี้มุ่งเน้นผลกระทบการลดค่ามนุษย์ของสงคราม และความท้อเเท้ที่เผชิญโดยทหาร “ความเงียบ” ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการไร้ความรู้สึกและความโหดร้ายของสงคราม และชื่อเยอรมัน Im Westen nichts Neues แปลว่า ภายในตะวันตก ไม่มีอะไรใหม่ การแสดงสองความหมายของไม่มีอะไรต่อรายงาน ไม่มีอะไรได้เปลี่ยนปลง
การแสดงความหยุดนิ่ง และการขาดความคืบหน้าภายในสงคราม ชื่อได้กลายเป็นถ้อยคำที่มีชื่อเสียงมักจะถูกใช้อธิบายการไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มองเห็น หรือข้อแก้ปัญหาภายในสถานการณ์ใดก็ตาม โดยเนื้อเเท้ ชื่ิอ All Quiet on the Western Front เป็นสัญลักษณ์ที่มีพลังของการไม่เชื่อมโยง ระหว่างการรับรู้สาธารณะของสงคราม และความเป็นจริงที้โหดร้ายเผชิญโดยทหารที่ต่อสู้บนแนวหน้า
All Quiet on the Western Front อ้างถึงทั้งนิยายและภาพยนตร์แสดงความเป็นจริงที่ยากลำบากของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยเฉพาะการมุ่ง
ที่ประสบการณ์ของทหารเยอรมันบนแนวรบด้านตะวันตก เป็นนิยายทางประวัติศาสตร์เขียนโดย อีริช มาเรีย เรอมาร์ค พิมพ์เมื่อ 1929 กลายเป็นความสำเร็จระหว่างประเทศทันที แปลเป็นหลายภาษาและขายได้หลายล้านเล่ม แสดงความเป็นจริงที่โหดร้าบของสงครามสนามเพลาะระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจากมุมมองของทหารหนุ่มเยอรมันคนหนึ่งชื่อพอล บอเมอร์
มันจะเป็นเรื่องราวต่อต้านสงครามที่มีพลังสำรวจบาดแผลทางจิตใจและร่างกายของสงคราม ความท้อเเท้ของทหารหนุ่ม การไม่เชื่อมโยงระหว่างมุมมองที่ยั่วยวนใจและความเป็นจริงที่โหดร้าย นิยายจะฝังรากลึกภายในบริบททางประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยเฉพาะบนแนวรบด้านตะวันตก สถานที่ของสงครามสนามเพลาะที่รุนแรง แสดงโดยสภาวะที่น่ากลัวการเสียชีวิตมากมายและการคุมเชิงกันอย่างยืดเยื้อภายในสนาม
เพลาะระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
อีริช มาเรีย เรอมาร์ค ทหารผ่านศึกเยอรมันได้เสนอมุมมองที่เฉพาะด้วยการมุ่งประสบการณ์ของทหารเยอรมัน ที่แสดงความท้อเเท้และบาดแผล
ของพวกเขา เรื่องราวแกนของนิยายคือ การต่อต้านสงคราม แสดงความไร้ประโยชน์ และลดค่าความเป็นมนุษย์ของสงคราม ท้าทายการยกย่อง
สงครามที่มักจะถูกส่งเสริมโดยการโฆษณาชวนเชื่อ เรื่องราวได้มุ่งเน้นว่าสงครามทำลายไม่ใช่เพียงแต่ร่างกาย แต่จิตใจและวิญญานของทหารที่
ต่อสู้อย่างไรด้วย
All Quiet on the Western Front ได้ถูกดัดเเปลงเป็นภ่พยนตร์สามครั้ง
เมื่อ ค.ศ 1930 1979 และ 2022 การดัดแปลงแต่ละครั้งสะท้อนการเล่าเรื่องและเทคนิคการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ณ เวลาของมัน การดัดแปลงภาพยนตร์ครั้งแรก กำกับโดย ลูอิส ไมล์สโตน ถูกเปิดตัวเมื่อ ค.ศ 1930 และได้กลายเป็นความสำเร็จอย่างน่าทึ่งภายในภาพยนตร์ ที่ชนะรางวัล
ออสการ์เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม


ภายในภาพยนตร์ 2022 All Quiet on the Western Front จะเป็นการดัดแปลงนิยายคลาสิคของเอริช มาเรีย เรอมาร์คด้วยเอดวาร์ดเบอร์เกอร์กำกับการแสดง ด้วยการดัดแปลงของเนตฟลิกซ์ เฟลิกซ์ แคมเมอร์เรอร์ แสดงบทบาทนำเป็น พอล บอยเมอร์ พอลเป็นทหารอายุ 17 ปี เผชิญกับความเป็นจริงที่ยากลำบากของสนามเพลาะสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เริ่มแรกถูกดึงดูดด้วยความเร่าร้อนของผู้รักชาติ เขาเเละเพื่อนโรงเรียนของเขาได้เกณฑ์ทหาร แต่อุดมการณ์ของพวกเขาได้พังทลายด้วยความน่ากลัวที่พวกเขาได้มองเห็นบนแนวหน้า
ภาพยนตร์ได้แสดงพอล บอยเมอร์ ต่อสู้กับความโหดร้ายของสงครามและพยายามจะรักษาความเป็นมนุษย์ของเขาท่ามกลางความรุนเเรงและความตาย พอลและเพื่อนของเขาถูกบันดาลใจด้วยความรักชาติ เข้าร่วมกองทัพเยอรมันเมื่อ ค.ศ1917 พวกเขาเริ่มแรกตื่นเต้นเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อประเทศของพวกเขา แต่มันได้จางหายไปอย่างรวดเร็วที่ได้เผชิญกับความเป็นจริงที่โหดเหี้ยมของสงครามภาพยนตร์ แสดงผลกระทบอย่างลึกซึ้งของสงครามสนามเพลาะต่อพอลและเพื่อนของเขานำไปสู่การสูญเสียความบริสุทธิ์ใจและความท้อแท้
คุณลักษณะของพอล บอยเมอร ได้ค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเขาได้มองเห็นความตาย และการสูญเสียทางจิตใจของการสู้รบ นำไปสู่ความรู้สึกของความสิ้นหวังและความโหยหาสันติภาพ ภาพยนตร์ได้แสดงความผูกพันอย่างเข้มแข็งระหว่างทหาร โดยเฉพาะพอลเเละเพื่อนของเขา และการคุกคามอย่างสม่ำเสมอของความตายที่เเขวนอยู่เหนือพวกเขา

Cr : รศ สมยศ นาวีการ

Facebook Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *